จังหวัดเชียงใหม่ โครงการจัดสรร,คอนโดมิเนียมและซีเนี่ยร์ คอมเพล็กซ์ริมปิงวิลปาร์ค อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่




















โครงการจัดสรรและซีเนี่ยร์ คอมเพล็กซ์
ริมปิงวิลปาร์ค
         บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา
                                  อ.แม่ริม  จ.เชียงใหม่   
                     พฤติกรรมผู้บริโภคมีส่วนในการตัดสินใจ
ในการกระทำกิจกรรมทางการตลาด
โครงการซีเนี่ยร์ คอมเพล็กซ์ริมปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา
ติดริมแม่น้ำปิง  อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 

            ดร.สมัย เหมมั่น กรรมการบริหาร   บริษัท อุตสาหกรรมเมืองมหาชัยและอสังหาริมทรัพย์ จำกัด  จัดทำ    โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  กล่าวอ้างแสดงความหมายอย่างกว้างถึงพฤติกรรมผู้บริโภคคือกระบวนการต่างๆ ของตัวบุคคลที่ปฏิบัติต่อสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ภายนอกให้ความหมายของผู้ซื้อบ้านพร้อมบริการดูแลผู้สูงอายุ คือบุคคลที่ไปทำการซื้อจริงในกระบวนการซื้อ  ดังนั้น  ผู้ซื้อก็คือบุคคลที่มีบทบาทเป็นผู้ซื้อสินค้า  ปกติผู้ซื้อก็คือลูกค้า  (Customer)  ของธุรกิจนั่นเอง อย่างวันนี้ กระผมได้ รับฟังท่านที่ปรึกษา ทางสังคมและเศรษฐกิจ คุยกับท่าน  ร.ตอ.ดร.นิติภูม นวรัตน์ ชื่อเดิม ท่านให้ฟังประสบการณ์ทำงานของท่านที่ผ่านมาหลายประเทศ  ทำให้ผมเข้าใจว่า ประเทศไทยมีจุดเด่น เป็นจุดที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ทั้งสังคมและวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญของผู้สูงอายุ วัฒนธรรม อาหารการกิน การอยู่อาศัยที่เรียบง่าย เป็นที่น่าสนใจของคนต่างประเทศAEC และทั่วโลก เป็นทางเลือกของชนชาติอื่น ทั้งกลุ่มยุโรปและรัสเซียและตะวันออกกลาง จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ เป็นอย่างยิ่ง  อันนี้ น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 

            ฉลองศรี  พิมลสมพงศ์  ได้ให้ความหมายไว้ว่า  การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค  หมายถึง  การศึกษาถึงความต้องการ  ความจำเป็นของผู้บริโภคที่เป็นตลาดเป้าหมายเพื่อวางกลยุทธ์ทางการตลาด  ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคนั้นๆ  และเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความพอใจสูงสุด
            ความหมายที่  ดร.สมัย   เหมมั่น กรรมการบริหาร  กล่าวสรุปในที่นี้ก็คือ  การกระทำหรือการแสดงออกของมนุษย์ที่ปรากฏออกเป็นการกระทำดังกล่าวนี้  จะมีกระบวนการของสิ่งของต่างๆที่เกี่ยวข้องกำกับอยู่จากภายในตัวบุคคลนั้นๆ  เสมอ  กล่าวคือ  จะมีกลไกของการกำกับสั่งการจากความนึกคิดและความรู้สึกที่มีอยู่ภายในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคนการกระทำของแต่ละคนจะมีของตนตลอดเวลาจะมีสิ่งที่ยึดถือต่างๆ  ภายในความคิดของตน  (Frame  of  mind)  อยู่เองและจะรับเอาเรื่องราวต่างๆ  (sensation) จากภายนอกเข้ามาได้ตลอดเวลาอีกด้วย  การตัดสินใจกระทำการต่างๆของเขาที่ปรากฏออกมาเป็นพฤติกรรมต่างๆ ย่อมจะอยู่ภายใต้การกำกับของสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น
            ดังนั้น การศึกษาผู้ซื้อและพฤติกรรมผู้ซื้อโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่    จึงเป็นการศึกษาถึงลูกค้าของธุรกิจที่เป็นได้ทั้งผู้บริโภคและผู้ใช้ทางอุตสาหกรรมขึ้นอยู่กับว่าตลาดของธุรกิจเป็นตลาดประเภทใด  เช่นผู้บริโภคบ้านเดี่ยวบ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ บ้านพักตากอากาศ ในขนาดต่างๆ  ลูกค้าหรือผู้ซื้อก็คือผู้บริโภคถ้าเป็นตลาดสินค้าอุตสาหกรรม  หรือตลาดรัฐบาล  หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรลูกค้าหรือผู้ซื้อก็คือผู้ใช้ทางอุตสาหกรรมเป็นต้น  ดังนั้นการศึกษาพฤติกรรมผู้ซื้อ  (Buyer  behavior)  เป็นการศึกษาพฤติกรรม  การซื้อสินค้าของลูกค้า โครงการบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ของธุรกิจต่างๆไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค หรือผู้เป็นนักลงทุนหวังกำไรจากการซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์  บ้านพักตากอากาศในโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  พฤติกรรมผู้บริโภค  (consumer  behavior)  ที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหรือการแสดงออกของมนุษย์เฉพาะในบางเรื่อง  คือ  เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับ การบริการทางการตลาดทั้งหลายนั้นย่อมถือได้ว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพฤติกรรมมนุษย์เท่านั้น  พฤติกรรมผู้บริโภคจะมีความหมายเฉพาะกระบวนการของตัวบุคคลที่ตัดสินใจว่า  จะซื้อบ้าน-ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยวที่แบบสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ที่น่าสนใจ บ้านพักตากอากาศ และเพื่อใช้เป็นบ้านพักคนชรา หรือให้บริการอะไรหรือไม่ถ้าจะซื้อจะซื้อที่ไหน  เมื่อไร  อย่างไร  และจะซื้อจากใคร  การตัดสินใจดังกล่าวจะประกอบด้วยจิตใต้สำนึกต่างๆทั้งทางกายและใจที่จำเป็นสำหรับทำการตัดสินใจ  สาระสำคัญส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของความเข้าใจ  (perceives)  ของแต่ละบุคคลที่มีอยู่  และการปฏิบัติหรือการกระทำต่อกันระหว่างตัวเขาเหล่านั้นกับสภาพแวดล้อม  รวมตลอดทั้งกับองค์การธุรกิจทั้งหลาย
            กล่าวโดยสรุปก็คือ การแสดงออกทางพฤติกรรมของมนุษย์โดยทั้งหมดนั้น  พฤติกรรมหรือกิจกรรมที่แสดงออกในฐานะที่เป็นผู้บริโภคจะเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น  พฤติกรรมผู้บริโภคจึงถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพฤติกรรมมนุษย์และด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคจึงอาศัยพฤติกรรมศาสตร์เข้าช่วยศึกษาทำนองเดียวกับ การศึกษาพฤติกรรมมนุษย์โดยทั่วไป
            โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ให้ความสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อ บริการ ดูแลผู้สูงอายุ เลือกบ้านและทาวน์เฮ้าส์ ที่มีการศึกษาวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในการทำธุรกิจการจัดสรรที่ดินและพักอาศัยบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ในแต่ละตำแหน่งทำเล ที่ลูกค้ามีความต้องการที่เลือกบริโภคมีความสุข คุ้มค่าต่อการลงทุน ต้อนรับการท่องเที่ยวระดับ อาเซียน AEC เขาค้อ
            อย่างวันนี้ กระผมได้นั่งคุยกับท่าน ร.ตอ.ดร.นิติภูม นวรัตน์ ชื่อเดิม  ทำให้ผมเขาใจว่า ประเทศไทย เป็นจุดที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ทั้งสังคมและวัฒนธรรม อาหารการกิน การอยู่อาศัยที่เรียบง่าย เป็นที่น่าสนใจของคนต่างประเทศเป็นทางเลือกของชนชาติอื่น ทั้งกลุ่มยุโรปและรัสเซียและตะวันออกกลาง เป็นอย่างยิ่ง  อันนี้ น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ อดิเช่น โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 

            1.  ปฏิกิริยาของบุคคลซึ่งรวมถึงกิจกรรมต่างๆ  เช่นการเดินทางไปและกลับจากร้านค้าการจ่ายของในร้านค้า การซื้อ การขนสินค้า  การใช้ประโยชน์และการประเมินค่าสินค้าและบริการที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาด
            2.  บุคคลเกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้รับและการใช้สินค้าและบริการทางเศรษฐกิจ  ซึ่งหมายถึง  ผู้บริโภคคนสุดท้ายเรามุ่งที่ตัวบุคคลผู้ซื้อสินค้าและบริการเพื่อนำไปใช้บริโภคเองหรือเพื่อการบริโภคของหน่วยต่างๆ  ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเช่นครอบครัว  เราพิจารณาหน่วยบริโภคว่ารวมถึงแม่บ้านในฐานะที่เป็นตัวแทนซื้อของครอบครัว  และบุคคลบางคนที่ซื้อของขวัญให้กับผู้อื่นด้วย  อย่างไรก็ดีเราไม่พิจารณาถึงการที่บุคคลซื้อให้กับองค์การธุรกิจหรือสถาบันต่างๆ
            3.  รวมถึงกระบวนการต่างๆ   ของการตัดสินใจซึ้งเกิดก่อน  และเป็นตัวกำหนดปฏิกิริยาต่างๆ  เหล่านี้  ซึ่งรวมถึงการตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่กระทบโดยตรงต่อปฏิกิริยาทางการตลาด  เช่น  การติดต่อกับพนักงานขายกับสื่อโฆษณาและการเปิดทางเลือกต่างๆ  และปฏิกิริยาต่างๆ  เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อหลังจากการระบุและพิจารณาทางเลือกต่างๆ  เป็นอย่างดีแล้ว  สรุปในที่นี้ก็คือ  พฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวข้องกับการศึกษาถึงว่าบุคคลผู้บริโภค  บริโภคอะไร  ที่ไหน  บ่อยแค่ไหน  และภายใต้สถานการณ์อะไรบ้างที่สินค้า  และบริการได้รับการบริโภค บริการดูแลผู้สูงอายุที่ดี บ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยวที่แบบสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ที่น่าสนใจ บ้านพักตากอากาศ
       4.การตัดสินใจรับบริการ ให้ดูแลผู้ป่วยหรือ พ่อและแม่ หรือผู้อนุบาลต่างๆนั้นจักต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจึงต้องร่วมกันตัดสินใจหลายคน จึงต้องใช้พฤติกรรมหมู่ ร่วม ในการตัดสินใจ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  เรามีกลยุทธ์ที่ดินในการให้บริการมีประสบการณ์ ในการให้บริการมาร่วม 20 ปีในการประกอบอาชีพ ดูและผู้สูงอายุในนาม บ้านทองทิพย์ และร่วมบริหารโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  นี้ด้วย ประกอบกับชื่อเสียงของ บ้านทองทิพย์ มีชื่อเสียง ที่ดีจึงมีลูกค้า มากถึง 300 ชีวิตที่ฝากชีวิตไว้กับ บ้านทองทิพย์  ให้ดูแลผู้สองอายุหรือผู้อนุบาล ของตน และบอกต่อแนะนำลูกค้า ตลอดมา
            การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นการศึกษา วิธีการที่แต่ละบุคคลกระทำการตัดสินใจใช้ทรัพยากร  (เงิน  เวลา  บุคลากร  และอื่นๆ)  เกี่ยวกับการบริโภคสินค้า  ซึ่งนักการตลาดต้องศึกษาว่าสินค้าที่เขาจะทำการเสนอขายนั้นใครคือลูกค้า (who)  ผู้บริโภคซื้ออะไร  (what)  ทำไมจึงซื้อ (why)  ซื้ออย่างไร  (how)  ซื้อเมื่อไร  (when)  ซื้อที่ไหน (Wher) และซื้อบ่อยครั้งเพียงใด  (how ofter)  รวมทั้งศึกษาว่าใครมีอิทธิพลต่อการซื้อ (who)
            การรับรู้และภาพลักษณ์ของตราสินค้า  และคนเรามักจะแสดงไปตามภาพลักษณ์ของตน  หากมีความเชื่อบางอย่างเป็นสิ่งที่ผิดและเป็นการขัดขวางการซื้อ  ผู้ผลิตจะต้องรณรงค์เพื่อแก้ไขหรือทำให้ความเชื่อเหล่านี้ถูกต้องคอยคำนึงถึงทัศนคติที่เป็นความรู้สึก อารมณ์  และวิวัฒนาการด้านความขอบของคนเรามาเนิ่นนานแล้ว นอกจากนี้การแสดงออกจึงมีความโน้มเอียงไปยังนิสัย
            กระบวนการการคิดวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อและการบริโภค เช่นการบริโภคก๋วยเตี๋ยวของวัยรุ่นเพื่อให้ทราบถึงคุณลักษณะความต้องการพฤติกรรมต่างๆ  ของวัยรุ่น  เพื่อให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแนวทางปฏิบัติในการตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นเป้าหมายได้สูงสุด  โดยใช้โมเดลพฤติกรรมผู้บริโภค (
consumer  behavior modul) หรือ S-R theory ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ศึกษาถึงเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อโดยเริ่มจากการเกิดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดความต้องการ  สิ่งกระตุ้นผ่านเข้ามาในความรู้สึกสำนึกของผู้ซื้อ  ซึ่งเปรียบเสมือนกล่องดำซึ่งประกอบธุรกิจไม่สามารถคาดคะเนได้  ความรู้สึกคิดนี้เองจะได้รับอิทธิพลในลักษณะต่างๆ  และทำให้มีการตอบสนองของผู้ซื้อ  ดังในภาพที่ 2.1  ซึ่งประกอบด้วย ส่วน  ดังนี้  สิ่งกระตุ้น (stimulus)  กล่องดำความรู้สึกคิดของผู้ซื้อ  (buyers’black box)การตอบสนองของผู้ซื้อ (buyers’ response) ซึ่งสามารถอธิบายพอให้เข้าใจได้ดังนี้ คือ
            สิ่งกระตุ้น (stimulus)  มีทั้งที่เกิดขึ้นเองในร่างกาย  และสิ่งกระตุ้นจากภายนอกซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการผลิตภัณฑ์  สิ่งกระตุ้นถือว่าเป็นเหตุจูงใจให้เกิดการซื้อสินค้า  ซึ่งประกอบด้วย ส่วนคือ
รูปหกเหลี่ยม: การตอบสนอง
ของผู้ซื้อ
สี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน: สิ่งกระตุ้น


กล่องข้อความ: ภาพแสดงแนวความคิดเกี่ยวกับผู้บริโภค  ที่มา: Phillips  Kotler, 1997:72

            1.1 สิ่งกระตุ้นทางการตลาด (marketing  stimulus)  เป็นสิ่งกระตุ้นที่นักการตลาดสามารถควบคุมจัดให้มีขึ้น  เป็นสิ่งกระตุ้นที่เกี่ยวข้องกับส่วนประสมทางการตลาด  (marketing  mix)  ซึ่งประกอบด้วย
1.1.1                สิ่งกระตุ้นด้านผลิตภัณฑ์ (product  stimulus)
1.1.2                สิ่งกระตุ้นด้านราคา  (price  stimulus)
1.1.3                สิ่งกระตุ้นด้านการจัดช่องทางการจำหน่าย  (place  stimulus)
1.1.4                สิ่งกระตุ้นด้านการส่งเสริมการตลาด  (promotion  stimulus)
1.2         สิ่งกระตุ้นอื่น ๆ (other  stimulus) เป็นสิ่งกระตุ้นความต้องการผู้บริโภคที่อยู่ภายนอกองค์การซึ่งไม่สามารถควบคุมได้  ได้แก่
1.2.1                สิ่งกระตุ้นทางเศรษฐกิจ  (economic  stimulus)
1.2.2                สิ่งกระตุ้นทางเทคโนโลยี (technological  stimulus)
1.2.3                สิ่งกระตุ้นทางกฎหมายและการเมือง  (law  and  political  stimulus)
1.2.4                สิ่งกระตุ้นทาวัฒนธรรม  (cultural  stimulus)
            2.  กล่องดำความรู้สึกคิดของผู้ซื้อ  (buyers’ black  box)  ความรู้สึกนึกคิดของผู้ซื้อเปรียบเสมือนกล่องดำ  ซึ่งผู้ผลิตหรือผู้ขายไม่สามารถทราบได้  จึงต้องพยายามค้นหาความรู้สึกนึกคิดของผู้ซื้อ  ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลักษณะของผู้ซื้อ  และกระบวนการตัดสินใจของผู้ซื้อ  ซึ่งมีอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ  ดังต่อไปนี้  คือ
                        2.1  ปัจจัยด้านวัฒนธรรม  (cultural  factor)
                        2.2  ปัจจัยด้านสังคม  (social  factor)
                        2.3  ปัจจัยด้านจิตวิทยา  (psychological  factor)
            ซึ่งปัจจัยดังกล่าวข้างต้น  จะก่อให้เกิดขั้นตอนการตัดสินใจของผู้บริโภค
            3.  การตอบสนองของผู้ซื้อ  (buyers’  response)  ผู้บริโภคจะมีการตัดสินใจในประเด็นต่างๆ ดังนี้
                        3.1  การเลือกผลิตภัณฑ์  (product  choice)
                        3.2  การเลือกตราสินค้า  (brand  choice)
            และยังมีปัจจัยอีกคือ  การเลือกผู้ขาย (dealer  choice)  การเลือกเวลาในการซื้อ  (timing  purchase  choice)  การเลือกปริมาณการซื้อ  (amount  purchase  choice)  ที่เป็นปัจจัยมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคดึงที่เสรีวงษ์มณฑาได้กล่าวถึงปัจจัยต่างๆ  ที่มีผลต่อการตัดสินใจ คือ
(1)       ลักษณะทางสรีระ  เป็นปัจจัยเบื้องต้นในการกำหนดพฤติกรรมการซื้อ  และ
พฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภค  มีบทบาทมากที่สุดในการตัดสินใจของมนุษย์  เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  เนื่องจากเป็นความต้องการของร่างกายซึ่งมีส่วนใหญ่เป็นปัจจัยสี่  ซึ่งประกอบด้วย  อาหาร  เครื่องนุ่งห่ม  ที่อยู่อาศัย  และยารักษาโรค
(2)       สภาพจิตวิทยา  เป็นความต้องการที่เกิดจากสภาพจิตใจ  เป็นปัจจัยภายในที่มี
อิทธิพลต่อการตัดสินใจของมนุษย์  ซึ่งเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของมนุษย์โดยอาจมีลักษณะความต้องการในเรื่องเดียวกัน  แต่สภาพจิตใจไม่เหมือนกัน
(3)       ครอบครัว  เป็นกลุ่มสังคมเบื้องต้นที่บุคคลเป็นสมาชิกอยู่  ครอบครัวเป็นแหล่งอบรม
และสร้างประสบการณ์ของบุคคล ถ่ายทอดนิสัย  และค่านิยม  ครอบครัวถือว่าเป็นหน่วยที่มีบทบาทในแง่ของการเตรียมตัวผู้บริโภคให้เข้าสู่สังคม
(4) สังคม เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราซึ่งจะมีผลที่เราต้องทำตัวให้สอดคล้องกับบรรทัดฐานของสังคมการที่ผู้บริโภคเป็นคนชั้นสูง ชนชั้นกลาง หรือชนชั้นต่ำ ซึ่งแต่ละชนชั้นก็จะมีพฤติกรรมแตกต่างกัน
(5) วัฒนธรรม ไม่ว่าเราจะอยู่ชนชั้นใด ในสังคมก็ตามมีวัฒนธรรมเป็นตัวครอบงำ วัฒนธรรม คือ วิถีชีวิตที่คนในสังคมยอมรับ ประพฤติปฏิบัติตามกันเพื่อความงอกงามของสังคม ซึ่งเป็นสิ่งดีสิ่งงามที่คนในสังคมยอมรับที่จะพฤติปฏิบัติร่วมกันเพื่อให้สังคมนั้นดำเนินไปได้ด้วยดี เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น จึงกล่าวได้ว่า วัฒนธรรมไม่ใช้สิ่งที่ถาวร วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่มีชีวิต สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่อาจจะใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นการยอมรับของสังคมที่กว้างขวาง และเป็นสิ่งที่ยอมรับกันมานานมาก  มีความสุข คุ้มค่าต่อการลงทุน ต้อนรับการท่องเที่ยวระดับ อาเซียน AEC เขาค้อ
        อย่างวันนี้ กระผมได้นั่งคุยกับท่าน ร.ตอ.ดร.นิติภูม นวรัตน์ ชื่อเดิม  ทำให้ผมเขาใจว่า ประเทศไทย เป็นจุดที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ทั้งสังคมและวัฒนธรรม อาหารการกิน การอยู่อาศัยที่เรียบง่าย เป็นที่น่าสนใจของคนต่างประเทศเป็นทางเลือกของชนชาติอื่น ทั้งกลุ่มยุโรปและรัสเซียและตะวันออกกลาง เป็นอย่างยิ่ง  อันนี้ น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ใน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และ การตัดสินใจใช้รับบริการ ให้ดูแลผู้ป่วยหรือ พ่อและแม่ หรือผู้อนุบาลต่างๆนั้นจักต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจึงต้องร่วมกันตัดสินใจหลายคน จึงต้องใช้พฤติกรรมหมู่ ร่วม ในการตัดสินใจ มีกลยุทธ์ที่ดีในการให้บริการและมีประสบการณ์ ในการให้บริการมาร่วม 20 ปีในการประกอบอาชีพ ดูและผู้สูงอายุในนาม บ้านทองทิพย์ และร่วมบริหารโครงการ นี้ด้วย ประกอบกับชื่อเสียงของ บ้านทองทิพย์ มีชื่อเสียง ที่ดีจึงมีลูกค้า มากถึง 300 ชีวิตที่ฝากชีวิตไว้กับ บ้านทองทิพย์  ให้ดูแลผู้สองอายุหรือผู้อนุบาล ของตน และบอกต่อแนะนำลูกค้า ตลอดมา


            การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (analyzing consumer behavior) จึงเป็นการค้นหาหรือวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อและการใช้ของผู้บริโภค เพื่อทราบถึงลักษณะความต้องการและพฤติกรรม การซื้อ และการใช้ของผู้บริโภค เป็นการค้นหาคำตอบที่ได้จะช่วยให้ผู้ขายสินค้าสามารถจัดกลยุทธ์การตลาด (marketing strategies) ที่สามารถสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม โดยคำถามที่ใช้เพื่อค้นหาลักษณะพฤติกรรมผู้บริโภค คือ 6W และ 1H เพื่อค้นหาคำตอบ 7 O ซึ่งประกอบด้วย Occupants Object, Objectives, Organization, Occasions, Outlets & Operation
คำถาม 6Ws และ 1H
คำถามที่ต้องการทราบ 7 Os
กลยุทธ์การตลาดที่เกี่ยวข้อง
1.ใครอยู่ในตลาดเป้าหมาย
(Who)
ลักษณะกลุ่มเป้าหมาย (Occupants)
1.            ประชากรศาสตร์
2.            ภูมิศาสตร์
3.            จิตวิทยา
4.            พฤติกรรมศาสตร์
กลยุทธ์การตลาด (4Ps) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ ราคาการจัดจำหน่าย และการส่งเสริมการตลาด
2.ผู้บริโภคซื้ออะไร
(What)
สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการซื้อ(Objects)ผู้บริโภคต้องการคุณสมบัติ หรือองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ความแตกต่างที่เหนือคู่แข่งขัน
กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์  ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลัก รูปลักษณ์ การบรรจุภัณฑ์ ตราสินค้า รูปแบบ คุณภาพบริการ ลักษณะวัฒนธรรม
ผลิตภัณฑ์ควบ ผลิตภัณฑ์ที่คาดหวัง ศักยภาพผลิตภัณฑ์
3.ทำไมผู้บริโภค
จึงซื้อ  (Why)
วัตถุประสงค์ในการซื้อ(Objectives)
กลยุทธ์ที่ใช้กันมากคือ
-              กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์


คำถาม 6Ws และ 1H
คำถามที่ต้องการทราบ 7 Os
กลยุทธ์การตลาดที่เกี่ยวข้อง

ผู้บริโภคซื้อสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการด้านร่างกาย และจิตวิทยา ซึ่งต้องศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการซื้อ คือ ปัจจัยภายใน  ปัจจัยภายนอก และปัจจัยเฉพาะบุคคล
-          กลยุทธ์ด้านการส่งเสริมการตลาด
-          กลยุทธ์ด้านราคา
-          กลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย
4.  ใครมีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อ (Who)
บทบาทของกลุ่มต่าง ๆ (Organization) มีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อ ประกอบด้วย ผู้ริเริ่ม ผู้มีอิทธิพล ผู้ตัดสินใจซื้อ ผู้ซื้อ ผู้ใช้
กลยุทธ์การโฆษณา และกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด โดยใช้กลุ่มอิทธิพล
5.  ผู้บริโภคซึ่ง
เมื่อไร (When)
โอกาสในการซื้อ (Occasions) เช่น ช่วงเดือนใดของปี หรือช่วงฤดูกาลของปี ช่วงวันใดของเดือน หรือ โอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญ ๆ ต่าง ๆ
กลยุทธ์ที่ใช้คือ กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด ที่สอดคล้องกับโอกาสในการซื้อ
6.  ผู้บริโภค ซื้อที่ใด (Where)
จะซื้อที่ใด ร้านใด (outlet)
กลยุทธ์ที่ใช้คือจัดสถานที่ หรือ Window Display ให้เจาะใจ เตะตา
7.  ผู้บริโภคซื้อ อย่างไร (How)
ขั้นตอนในการตัดสินใจซื้อ(Operations) ประกอบด้วย การรับรู้ปัญหา การค้นหาข้อมูล การประเมินผลทางเลือก การตัดสินใจซื้อ  ความรู้สึกภายหลังการซื้อ
กลยุทธ์ที่ใช้มากคือ กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาด ประกอบด้วยการโฆษณา การขายโดยใช้พนักงานขาย การให้ข่าว การประชาสัมพันธ์ การตลาดทางตรง

            จากแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคกับการบริหารการตลาดยุคใหม่ที่ผู้เขียนกล่าวอ้างมาข้างต้นแล้วนั้น พอจะสรุปได้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภค มีผลต่อกลยุทธ์ของตลาดธุรกิจ จำเป็นที่นักการตลาดต้องศึกษามูลเหตุจูงใจที่เป็นสิ่งกระตุ้นในการตัดสินใจซื้อ การค้นหาความรู้สึกนึกคิดของผู้บริโภค ลักษณะของผู้บริโภค
            การตอบสนองของผู้บริโภค และขั้นตอนในการตัดสินใจซื้อ เพื่อเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค และสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจ ดังนั้นพฤติกรรมผู้บริโภค จึงเป็นตัวแปรตัวหนึ่งที่สำคัญที่เราทั้งหลายต้องสนใจศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในตลาดต่าง ๆ เพื่อสามารถวางกลยุทธ์ตลาดที่ตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม กำไรเหมาะสม และ Brand ของท่านจะสามารถครองตลาดไปได้นานเท่าที่จะนานอยู่ในความทรงจำของผู้บริโภค หรือ ผู้ซื้อได้ตลอดไป
            สรุป ๆ คือ สร้างชื่อเสียง และ สร้าง Brand ก่อน แล้ว เงินจะตามมาเอง  ถ้าเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคมีส่วนในการตัดสินใจในการกระทำในกิจกรรมทางการตลาด
            ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ลอง ไม่รู้ และที่รู้กันมา มีการลองผิด ลองถูกมามากแล้ว และอย่าลืมว่า ทฤษฎีที่ยกมากล่าวอ้างนั้น มาจากการปฏิบัติการมาหมดแล้ว เพราะรู้ปฏิบัติมาก่อน แล้วนำมาสรุปเป็นทฤษฎี แต่ถ้ารู้ทฤษฎีแล้ว ไม่ปฏิบัติอีกคือความว่างเปล่า หากปฏิบัติโดยไม่อิงทฤษฎีก็อาจหลงทางเสียเวลาไปนานลองพิจารณาดู
            ผู้เขียนขอขอบคุณชิ้นงานวิจัย และเอกสารตำราของที่กล่าวอ้าง และไม่ได้อ้างมาทั้งหมด และขอให้ความสำคัญงานวิจัยที่เรียกว่า Research
            Re-ใหม่ Search-การค้นหา ต้องค้นหาใหม่ ๆ ไปเพื่อต่อยอดต่อ ๆ ไปครับ





บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
โดย ดร. สมัย เหมมั่น กรรมการบริหาร
            ให้ข้อคิด เลือกซื้อ บริการดูแลผู้สูงอายุ  และวิธีการเลือกซื้อบ้านแบบบ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยวที่แบบสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ที่น่าสนใจ บ้านพักตากอากาศ  ที่ศึกษาวิเคราะห์มา ด้วยสังคมและหน้าที่การงาน ทำให้คนไทยต้องใช้ชีวิตในสังคมเมือง เมืองกรุง กันมากขึ้น และด้วยโครงการขนาดใหญ่สำคัญ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่  ได้แก่ รัฐบาลอนุมัติ โครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งรัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในเฟสแรกปี 2561-65ซึ่งโครงการนี้เป็นระบบรถไฟความเร็วสูงระหว่างประจวบ-กรุงเทพฯ ระยะทาง 200 กิโลเมตร กรุงเทพ-เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทาง ไม่นานไม่กี่ ชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้วันละ 34,800 คนต่อ มีศักยภาพในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศหาบ้านให้มีความสุข คุ้มค่าต่อการลงทุน ต้อนรับการท่องเที่ยวระดับ อาเซียน AEC  โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่     การตัดสินใจใช้รับบริการ ให้ดูแลผู้ป่วยหรือ พ่อและแม่ หรือผู้อนุบาลต่างๆนั้นจักต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจึงต้องร่วมกันตัดสินใจหลายคน จึงต้องใช้พฤติกรรมหมู่ ร่วม ในการโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  มีกลยุทธ์ที่ดีในการให้บริการและมีประสบการณ์ ในการให้บริการมาร่วม 20 ปีในการประกอบอาชีพ ดูและผู้สูงอายุในนาม บ้านทองทิพย์ และร่วมบริหาร โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่    นี้ด้วย ประกอบกับชื่อเสียงของ บ้านทองทิพย์ มีชื่อเสียง ที่ดีจึงมีลูกค้า มากถึง 300 ชีวิตที่ฝากชีวิตไว้กับ บ้านทองทิพย์  ให้ดูแลผู้สองอายุหรือผู้อนุบาล ของตน และบอกต่อแนะนำลูกค้า ตลอดมา   อย่างวันนี้ กระผมได้นั่งคุยกับท่าน ร.ตอ.ดร.นิติภูม นวรัตน์ ชื่อเดิม  ทำให้ผมเขาใจว่า ประเทศไทย เป็นจุดที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ทั้งสังคมและวัฒนธรรม อาหารการกิน การอยู่อาศัยที่เรียบง่าย เป็นที่น่าสนใจของคนต่างประเทศเป็นทางเลือกของชนชาติอื่น ทั้งกลุ่มยุโรปและรัสเซียและตะวันออกกลาง เป็นอย่างยิ่ง  อันนี้ น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 

            ใช้บริการ การมากขึ้น ขยายตัวมากขึ้นมีความสามารถรองรับผู้ใช้บริการ 10 ล้านคน/ปี ในข้อเท็จจริงถนนเส้นนี้เป็นแห่ลงใดมีจำนวนผู้ใช้บริการเกินกึ่งหนึ่งของศักยภาพ จะต้อง  เหมาะสมรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคตได้ โครงการนี้สภาพัฒน์ได้เคยศึกษาความเป็นไปได้แล้วว่ามีความเหมาะสมที่จะพัฒนา      โครงการ “ถนนส่งเสริมการท่องเที่ยว แม่สอด-นครพนม และจะขยาย 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร นอกจากนี้ ก็มีแผนทำถนนวงแหวนรอบ ๆรวมถึงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการแล้ว
            โครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว มีโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ถนนริมชายเขาจุดชมวิว-แหล่งขายของของชุมชน ส่วนอีกโครงการสำคัญ คือการพัฒนาชุมชนนิเวศ (Eco Village) ซึ่งเป็นแลนด์การท่องเที่ยวของโลกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในปี 2558 ได้กำหนดพื้นที่นำร่องคือพื้นที่อื่นในเชียงใหม่ต่อไป เมื่อนโยบายรัฐบาลสนับสนุนให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการค้าเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านทางบก-ทะเล  ซึ่งในระยะ 5 - 10 ปี จำเป็นต้องขยายเมืองใหม่เพื่อรองรับการเติบโตและความแออัดของเมืองมหาชัย ในปัจจุบัน โดย กรมโยธาธิการและผังเมืองจะกำหนดตำแหน่งของถนนแห่งใหม่เพื่อรองรับความเป็นศูนย์กลางการเดินทางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สนับสนุนการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งถนนแห่งใหม่น่าจะเกิดขึ้นหลังจาก 10 ปีนับจากนี้ ส่วนพื้นที่ที่มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้น่าจะอยู่ในพื้นที่ จะมีถนนวงแหวนรอบนอกเชื่อมโยงอีก 1 เส้นโดยหลักการคือผู้ที่เดินทาง ไม่จำเป็นจะต้องเข้าเมือง และมีโครงการรถไฟ ซึ่งทำให้เกิดพื้นที่เมือ เชียงใหม่ ที่จะโต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด และโครงการสร้างเมืองใหม่ก็เคยมีการศึกษาไว้เมื่อก่อนหลาย ปีที่ผ่านมาตามโครงการพัฒนาเมือง
      ประเด็นที่สองคือประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยการพิจารณาจากเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ และรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยจากการสำรวจพบว่า 3 เหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด มีดังนี้การตัดสินใจใช้รับบริการ ให้ดูแลผู้ป่วยหรือ พ่อและแม่ หรือผู้อนุบาลต่างๆนั้นจักต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจึงต้องร่วมกันตัดสินใจหลายคน จึงต้องใช้พฤติกรรมหมู่ ร่วม ในการตัดสินใจ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  มีกลยุทธ์ที่ดีในการให้บริการและมีประสบการณ์ ในการให้บริการมาร่วม 20 ปีในการประกอบอาชีพ ดูและผู้สูงอายุในนาม บ้านทองทิพย์ และร่วมบริหาร นี้ด้วย ประกอบกับชื่อเสียงของ บ้านทองทิพย์ มีชื่อเสียง ที่ดีจึงมีลูกค้า มากถึง 300 ชีวิตที่ฝากชีวิตไว้กับ บ้านทองทิพย์  ให้ดูแลผู้สองอายุหรือผู้อนุบาล ของตน และบอกต่อแนะนำลูกค้า ตลอดมา ตัดสินใจใช้กลยุทธ์นี้ตัดสินใจทำ โครงการบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา  ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและ AEC

1. รัฐบาลไทยยกเว้นภาษีสำหรับชาวต่างชาติที่มีรายได้จัด หรือแม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเหมะแก่ชาวต่างชาติผู้เกษียณอายุแล้วเป็นอย่างมาก
2.ค่าครองชีพที่ถือว่าต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในโลก ชาวตะวันตกโดยเฉพาะคนอังกฤษจึงสามารถมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหาแน่นอน
3. วิถีชีวิตที่เรียบง่าย เหมาะสมซึ่งทำให้ประเทศไทยเหมาะมากสำหรับผู้ที่เกษียณอายุและต้องการความสงบในชีวิต ตลอดจนปัจจัยเรื่องสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เพราะอากาศไม่หนาวมาก และมีแสงแดดตลอดทั้งปี
1.            ประเด็นที่สามคือการเปิดประตูประชาคมอาเซียน(AEC)จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์แม้ว่าการเปิด AEC จะส่งผลบวกต่อดีมานด์ซื้อ และเช่าอสังหาฯ บ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยวที่แบบสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ที่น่าสนใจ บ้านพักตากอากาศ มือสองในย่านศูนย์กลางธุรกิจ และแหล่งชุมชนใจกลางเมืองโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ทั่วทุกภาค เช่นแหล่งนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น เพราะหลังเปิด AEC แล้วนักลงทุนและแรงงานจากกลุ่มประเทศอาเซียนจะเข้ามาอาศัยในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ  และแหล่งนิคมฯรอบๆ จ.เชียงใหม่ มีจำนวนมาก ที่มาเที่ยวและพักผ่อน ในจังหวัด เชียงใหม่  เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดใจกลางเมืองและใกล้ศูนย์ราชการ มีความคึกคักมากขึ้น
            ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจากประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียนต่างเห็นว่าเศรษฐกิจปี2558 ดีกว่า 2 ปีก่อนและจะดีขึ้นอีกในปี 2559ก่อนเปิด AEC ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกัน และทุกประเทศเห็นว่าการเปิด AEC จะเป็นประโยชน์ร่วมกันแต่ก็ยังมีความเป็นห่วงต่อการแข่งขันอยู่เช่นกัน
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธารกรรมการการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยแลประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเดท แอฟแฟร์ส ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งอาเซียน ณ ประเทศบรูไน ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2558 จำนวนเกือบ 100 คนจากทั้งหมดเกือบ 200 คนต่อประเด็นความพร้อมในการเปิดประชาคมอาเซียน (ASEAN Economic Community:AEC)ในปี พ.. 2558 และความเห็นเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยพอสมควร
ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินในภูมิภาคนี้ ให้ความคิดเห็นว่าเมื่อเทียบสถานการณ์เศรษฐกิจ พ.. 2558 กับปัจจุบัน 56% ประเมินว่าปัจจุบันดีกว่า มีเพียง 7% ที่เห็นว่าแย่ลงที่เหลือ 36% บอกว่าเหมือนเดิม สำหรับในรายละเอียด ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน


          จากบรูไน สิงคโปร์ และไทย มองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจยังแทบไม่เปลี่ยนแปลง แต่ประเทศอื่นๆ กลับมองว่าสถานการณ์ดีขึ้นเป็นหลัก และเมื่อพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจในอีก 2 ปีข้างหน้า คือ พ.. 2559 ส่วนใหญ่ 67% บอกว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น มีเพียง 4% ที่คิดว่าจะเลวร้ายลง อย่างก็ตามผู้แทนจากประเทศไทยส่วนใหญ่เห็นว่าจะยังคงเหมือนเดิม
            กรณีตลาดอสังหาริมทรัพย์ พบว่า 63% คิดว่าสถานการณ์ตลาดดีขึ้นกว่าปี พ.. 2559 อย่างไรก็ตาม ราวๆ ครึ่งหนึ่งของผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจากบรูไนและไทยคิดว่าสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองในไทย และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของบรูไน ยังไม่กระเตื้องขึ้นนั่นเอง และเมื่อพิจารณาถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอีก 2 ปีข้างหน้าคือ 2561 พบว่าส่วนใหญ่ 66% จากแทบทุกประเทศระบุว่า สถานการณ์น่าจะดีกว่าปัจจุบันอย่างไรก็ตามผู้ประเมินทรัพย์สินจากประเทศยังเห็นว่าตลาดยงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก 2 ปีข้างหน้า
            ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป้าหายของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว (Single Market and Production Basw) โดยมีการเคลื่อนสินค้า การลงทุน และแรงงานฝีมือภายในอาเซียนได้อย่างเสรีรวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่เสรีมากขึ้น ภายในปี 2559 และภายใต้กรอบการเจรจาของเอเซียน แผนงานนาไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Bluepeint )กำหนดพันธรณีให้ประเทศสมาชิกต้องเปิดเสรีการค้าบริการ รวมถึงการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์โดยลดหรือยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด(Treaket Access: MA)และข้อจำกัดในการให้การปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ (National Treatment :NT) หรือการปฏิบัติต่อคนต่างชาติที่สัญชาติอาเซียนเช่นเดียวกับคนในชาติตนเอง นอกจากนั้นแล้วยังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นให้กับนักลงทนที่มีสัญชาติอาเซียนได้สูงสุดถึง 70% อีกด้วย
            จากข้อกำหนดดังกล่าว ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย จะต้องมีการปรับตัวและเตรียมความพร้อมรบมือกับนักลงทุนต่างชาติที่มีทั้งเงินทุนและเทคโนโลยีที่จะเข้ามาแข่งขันมากขึ้น เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยยังมีราคาต่ำกว่าประเทศเพื่อบ้านอย่างน้อยเช่น สิงคโปร์ อยู่มากนอกจากนี้ประเทศไทยเองยังตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งเหมาะต่อการเข้ามาลงทุนหรือประกอบธุรกิจเป็นอย่างยิง และอาจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศได้ในระยะยาว ในขณะเดียวกันก็จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถออกไปแข่งขัน หรือขยายธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราความต้องการที่อยู่อาศัยสุงกว่า พร้อมทั้งเกิดการแลกแลกเปลี่ยน เทคโนโยลี และองค์ความรู้ใหม่ๆกบันักลงทุนจากประเทศสมาชิกมากขึ้น
            ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในฐานะที่เป็นธุรกิจการค้าครอบคลุมถึงการพัฒนาออกแบบก่อสร้าง ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้เช่า ให้สินเชื่อจำนอง ประเมินค่าทรัพย์สินโอนทรัพย์สิน ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจใหญ่ที่มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา เช่น นักพัฒนา นักลงทุน ตัวแทนนายหน้า
             นักกฎหมายสำรวจ นักกฎหมายนักสำรวจ นักประเมินราคา นักบริหารทรัพย์สินเป็นต้นและที่เป็นนิติบุคคลเช่น การนิคมอุตสาหกรรม สถาบันการเงิน ธนาคาร บริษัทบ้านจัดสรร เป็นต้น ตามแผนงานนาไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กำหนดให้การเคลื่อนย้ายของนักธุรกิจผู้เชี่ยวชาญ  ผู้ประกอบวิชาชีพ แรงงานฝีมือและผู้มีความสามารถพิเศษมีการจัดหา MRAs เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบวิชาชีพ (แพทย์ทันตแพทย์ พยาบาล สถาปนิก วิศวกร นักบัญชี และนักสำรวจ) อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาขาแคลนแรงงานวิชาชีพตามมา แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยลดต้นทุนจากจัดหาสถาปนิก หรือวิศวกรเซ็นงานได้เช่นเดียวกัน
            นอกจากนี้ ตามความตกลงการค้าสินค้าของ (Asean Trade in Goods Agreement :ATIGA )ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกภาษีสินค้านาเข้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน หรือการยกเลิกและขจัดมาตรการที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers:NTBs) ที่จะเป็นอุปสรรคทางการค้าก็ตามอาจส่งผลทาให้เกิดการลดต้นทุนในการนำเข้าวัตถุดิบ หรือวัสดุก่อสร้างจากประเทศสมาชิกที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า และไม่มีภาษีนำเข้าหรือเพิ่มทางเลือกและความหลากหลายให้กับผู้ประกอบการในการนำเข้าวัตถุดิบ หรือวัสดุก่อสร้างหรือวัสดุตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพต่ำ และไมได้มาตรฐานเข้าสู้ตลาดมากขึ้นเช่นกัน
            ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นผลกระทบทางตรงที่อาจเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้าในขณะที่ผลกระทบทางอ้อมนั้นเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างอายุประชากรของประเทศสมาชิกอาเซียนพบว่ามีความคล้ายคลึงกัน โดยประชากรส่วนใหญ่ในแต่ละประเทศอยู่ในวัยหนุ่มสาวและวัยทำงาน (อายุระหว่าง 25-64 ปี) ซึ่งสัดส่วนประชากรวัยทำงานมีสูงถึง70% ของประชากรทั้งหมดในเอเซียน และยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงพร้อมจะลองสินค้าใหม่ ๆ ที่มีการนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ในการผลิตส่งผลทำให้เกิดแนวคิดการพัฒนาและ การออกแบบที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมน่าจะมีความแปลกใหม่และดึงดูดความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยมีการนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาผสมผสานในการออกแบบ หรือวัสดุก่อสร้างที่สามารถกำจัดเศษเหลือทิ้งได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยควรเร่งปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในอาเซียนที่หันมาให้ความสำคัญกับสินค้าประเภทดังกล่าวมากขึ้น
            นอกจากนี้ รายได้เฉลี่ยของประชากรในแต่ละประเทศสมาชิกก็อาจจะเป็นตัวกำหนดแนวคิดในการพัฒนาและออกแบบที่อยู่อาศัยได้เช่นกันโดยสิงคโปร์และบรูไนจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง ทำให้ผู้บริโภคนิยมสินค้าที่มีแบรน โดยคำนึงถึงคุณภาพและความทันสมัยของสินค้าเป็นสำคัญ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับแนวคิดที่เน้นในเรื่องของคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยมาก่อนเป็นอันดับแรก
            ในขณะที่มาเลเซียและไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-สูง ซึ่งผู้บริโภคมักให้ความสำคัญกับสินค้าเทคโนโลยีและสารสนเทศรวมถึงสินค้าที่สนองตอบต่อวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ผู้ประกอบการจึงควรพัฒนาโครงการที่ช่วยส่งเสริมหรือสนับสนุนการทำงานของผู้อยู่อาศัยให้ประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้เร็วขึ้น เช่น มีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงาน หรือเอื้อให้เกิดการพัฒนาตนเอง เป็นที่ตั้งอยู่ในที่ที่เดินทางสะดวกหรือไม่ต้องเสียเวลาไปกับการดูแลทำความสะอาดที่อยู่อาศัยเหล่านี้ เป็นต้น
            ในขณะที่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและลาว จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-ต่ำ ส่วน กัมพูชา และพม่าจัดอยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำ ซึ่งผู้บริโภคในประเทศเหล่านี้จะมีกำลังซื้อไม่สูงมากนักจึงนิยมบริโภคสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในเรื่องของราคาเป็นสำคัญ ดังนั้น ผู้ประอบการไทยจึงต้องเร่งปรับตัวและศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนรอบด้านทั้งความได้เปรียบเสียเปรียบ ตลอดจนต้องรู้จักเรียนรู้วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพรีและความคิดของประเทศเพื่อนบ้านเพื่อจะได้เตรียมความพร้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า
            ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศสมาชิกมีการขยายตัวขึ้น หัวใจของการรวมตัวก็เพื่อที่สร้าง Single Market และก็ Single Production Base  ภาพรวมของ กลุ่ม AEC คือ มีประชากรรวมกัน 601 ล้านคน (คิดเป็น 8.8% ขอประชากรทั้งโลก ซึ่งถ้าสามารถรวมตัวกันได้จริง ตามเป้าหมายที่วางไว้คือปี 2015 จะทำให้กลุ่ม AEC มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของโลกที่ขนาด $1,800 billion)…เทียบกับเศรษฐกิจโลกคือ $14,256 billion, EU $12,517 billion, ญี่ปุ่น $5,068 billion, จีน$4,910 billion เป็นต้น
            หากคุณเป็นผู้ประกอบการ สิ่งที่น่าสนใจ คือ การเข้าใช้ประโยชน์ในเรื่องการหาแรงงานที่ราคาถูก และ สามารถผลิตใกล้แหล่งวัตถุดิบ
            มีวัตถุประสงค์ของการรวมตัวของ AEC จะประกอบไปด้วย ด้านคือ 1.Free flow of goods   2.Free flow of Investment 3. Free flow of capital   4. Free flow of skilled labour และ 5. Free flow of services
           
            ประเด็นที่ 4 จังหวัดเชียงใหม่  ศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมอาหาร  เป็นศูนย์กลางการค้าของภาคเหนือ มีข้อได้เปรียบด้วยการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาปีละหลาย 10 ล้านคน ดังนั้นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ  มีความพร้อมสามารถพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านกลางด้านการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวหรือ Long Stay ในอนาคตได้ โดยมีเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์- โคราช-ขอนแก่น-เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยวแบบลองสะเตไปยังทุกจังหวัดในกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือการแพทย์(Medical Tourism) เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกลุ่มจังหวัด โดยให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในภูมิภาค ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจทุกกลุ่ม เช่น โรรงบาล คลินิก บริษัทท่องเที่ยว โรงแรม สถานพักฟื้น นวดแผนไทย สะปา
            ในอนาคตอันใกล้จะมีผู้สูงอายุญี่ปุ่นเดินทางมาพนักที่เชียงใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ปัจจุบันเข้ามาพำนักอยู่แล้ว 3,800-4,000 คน และยังมีผู้สูงอายุประเทศอื่นอีกในสัดส่วนใกล้เคียงกัน จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนใช้จ่ายเฉลี่ยปีละ 6,000-7,000 ล้านบาท
            ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุหรือวัดปลดเกษียณชาวญี่ปุ่นมีประมาณ 8 แสน -1 ล้านคน และมีผู้ที่อายุเกน 60ปีในญี่ปุ่นประมาณ 7-8 ล้านคน โดยสัดส่วน 18% จะชอบเดินทางไปพำนักในประเทศอื่นๆ ดังนั้น จะต้องทำให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือดอนบนเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ชาวญี่ปุ่นจะต้องเดินทางมาท่องเที่ยวให้ได้โครงการบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา
       เหมาะต่อการตัดสินใจในการให้บริการในเวลานี้ ประเด็นที่สำคัญคือประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยการพิจารณาจากเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ และรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยจากการสำรวจพบว่า 3 เหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด มีดังนี้การตัดสินใจใช้รับบริการ ให้ดูแลผู้ป่วยหรือ พ่อและแม่ หรือผู้อนุบาลต่างๆนั้นจักต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจึงต้องร่วมกันตัดสินใจหลายคน จึงต้องใช้พฤติกรรมหมู่ ร่วม ในการตัดสินใจโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  เรามีกลยุทธ์ที่ดีในการให้บริการและมีประสบการณ์ ในการให้บริการมาร่วม 20 ปีในการประกอบอาชีพในการดูและผู้สูงอายุในนาม บ้านทองทิพย์ และร่วมบริหารโครงการ โครงการบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา   นี้ด้วย ประกอบกับชื่อเสียงของ บ้านทองทิพย์ มีชื่อเสียง ที่ดีจึงมีลูกค้า มากถึง 300 ชีวิตที่ฝากชีวิตไว้กับ บ้านทองทิพย์  ให้ดูแลผู้สองอายุหรือผู้อนุบาล ของตน และบอกต่อแนะนำลูกค้า ตลอดมา ตัดสินใจใช้กลยุทธ์นี้ตัดสินใจทำโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและการตลาดยุค AEC ในปัจจุบัน

            ประเด็นที่ห้า การลงทุนการค้าปลีกจากนักลงทุนในและต่างประเทศ ซึ่งดำเนินโครงกรขนาดใหญ่หลายรายการ อาดิเช่น การปักธงของทุนข้ามชาติ      และทุนจากส่วนกลาง ซันทรัล ที่ประกาศลงทุน เซ็นทรัล   เชียงใหม่ และไทวัสดุ และห้างค้าปลีก เมคโคร บิกซีและโลตัส   อย่างเป็นทางการ ทำให้อุณหภูมิการแข่งขันของสมรภูมิค้าปลีกในเพชรบูรณ์ คึกคักอย่างมากในช่วงไตรมาสแรกของปีนนี้ เพราะมูลค่าการลงทุนองทั้งสองห้าสูงเกือบ 20,000 ล้านบาท และมีพื้นที่ใช้สอยรวมกันมากกว่า 2.2 แสนตารางเมตร
            สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ ทุนใน ท้องถิ่นและส่วนกลาง ต่างก็เทเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างผิดตา ทั้งการลงทุนใหม่ การปรับปรุง(Renovate) พ้นที่ใหม่รวมถึงการเกิดขึ้นของคอมมิวนิตี้มอลล์(community mall) จำนวนมากติดอันดับต้นๆของประเทศ ขณะที่ฐานตลาดเดิม จังหวัด เชียงใหม่  มีศูนย์การค้าใหญ่สุดในภาคเหนืออยู่แล้ว ซึ่งมีทั้งห้าง พลาซ่า พื้นที่อาคารที่ใช้สอย 175,185 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท รวมถึง ลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท
            ในอนาคตอันใกล้ภายในปี 2558-63 ห้างค้าปลีก ศูนย์การค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ของ จังหวัด เชียงใหม่ จะมีพื้นที่ขายมากกว่า 1 ล้านตารางเมตร ยิ่งจะทำให้พื้นที่ ค้าปลีกทุกระดับใน เชียงใหม่  ติดอันดับเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคก็ว่าได้
            สิ่งที่สร้างความมั่นใจให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่ เซ็นทรัลจากผลการ สำรวจวิจัยของ บริษัท อีซีซี อินเตอร์เนชั่นแนลเรียลเอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริหารจัดการห้างสรรพสินค้าชั้นนำสัญชาติ เนเธอร์แลนด์ ระบุว่า  จังหวัด เชียงใหม่  มีการเติบโตขึ้น อย่างต่อเนื่องมีประชากรในตัวเมืองและจังหวัด เชียงราย –แม่ฮ่องสอน-ลำปาง-น่าน-ลำพูน –ตาก- กำแพงเพชร – แพร่ – อุตรดิตถ์ มาร่วมกันค้าขายและ สร้างเศรษฐกิจร่วมกันในชุมชน รวมกัน 20 ล้านคน หรือ 41,000 ครัวเรือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ความต้องการของผู้บริโภค รายได้ประชากร และการก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยและปริมาณแรงานที่หลั่งไหลเข้าสู่ตัว จังหวัด
            ข้อมูลดัชนีค้าปลีกของจังหวัด เ ขยายตัวกว่า 250% นับตั้งแต่ปี 2545-2553 เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่เป็นตารางเมตร ของช๊อปมอลล์ที่ไม่เพิ่มขึ้นในช่วง 10 ปีหลัง ทำให้เห็น
ว่า จ. เชียงใหม่  ยังไมได้รับการตอบสนองในด้านแหล่งค้าปลีกอย่างเพียงพอ
            นอกจากนี้ ห้างพรอมเมดาฯยังได้ว่าจ้าง ที เอ็น เอสฯ และเน็กซัสฯศึกษาวิจัยข้อมูลตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค พบว่าชาว เชียงใหม่  ต้องการช๊อปปิ้งมอลล์ที่แปลกใหม่ และผู้บริโภค พบว่าชาว นักท่องเที่ยว เขาค้อ ต้องกรชีอปปิ้งมอลล์ที่แปลกใหม่ และผู้บริโภคยังมีพฤติกรรมแสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนและการชีอปปิ้งที่ตอบ สนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากขึ้น
                       
            จากปรากฏการณ์เคลื่อนตัวของทุนขนาดใหญ่ ทำให้ทุนท้องถิ่นเดิมทั้งขนาดเล็กและใหญ่ขยับตัวกันอย่างคักคักและเติบโต อย่างก้าวกระโดด
           
ผุดคอมมิวนิตี้มอลล์วันนี้กระแสการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าศูนย์การค้าขนาดใหญ่ก็คือ การเติบโตของห้างขนาดกลาง และคอมมิวนิตี้มอลล์ ของทุนท้องถิ่น จังหวัด ที่ถือว่าขยายตัวสูงสุด จากเจ้าเดิมที่ลงทุนไปแล้ว เช่น ตลาดนัด ,มีโชคพลาซ่าและ
            จากนี้ไป จังหวัดเชียงใหม่  จะกลายเป็นเมืองที่มีห้างค้าปลีกโตคู่กับการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์แนวใหม่ ที่ตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคที่เป็น ไรสไตล์สมัยใหม่มากขึ้น
            ประเด็นที่หกคือความต้องการการมีบ้านพักตากอากาศ ของวัยทำงาน แม้ว่าในโลกนี้จะมีหลายๆสิ่งที่เราอยากได้มาเป็นเจ้าของอย่างเจ้ารถยนต์คันโก้ มือถือนุ่นล่าสุด นาฬิกายี่ห้อดัง โน๊ตบุ๊กล่าสุดเครื่องปรับสวยๆและอื่นๆอีกมากมาย แต่ บ้าน ก็จัดเป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของใครหลายๆคน ที่อยากจะครอบครอง เพราะบ้านไมได้เป็นแค่สินทรัพย์ ทั้งๆที่บ้านสร้างด้วย อิฐ หิน ปูน ไม่มีชีวิต แต่ทำไมเรามักจะรำพึงรำพันว่า คิดถึงบ้านเสมอๆเป็นเพราะบ้านเป็นที่แห่งเดียวในโลก ที่เราจะทำได้ทุกอย่างที่เราเป็น คงจัดไม่น้อยถ้าหากสักวันหนึ่งคุณจะมีบ้านของคุณเองสักหลัง มาดูเหตุผลที่ควรมีบ้านดีว่า ไม่อยากเช่าบ้านไปตลอดชีวิต แม้ว่าการซื้อบ้านสักหลัง ต้องใช้เงินก้อน และกว่าจะเก็บเงินก้อนได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร การเริ่มต้นมีบ้านหรือโลกส่วนตัวของคุณเองโดยการเช่าอยู่นั้นถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่คุณรู้ไหมว่าเงินที่จ่ายค่าเช่าในแต่ละเดือนนั้น ไมได้มากไปกว่าการผ่อนบ้านในแต่ละเดือน ต่างกันตรงที่คุณได้เป็นเจ้าของบ้านด้วย ผิดกับการเช่าที่จ่ายเงินไปแล้วแลกกับการอยู่อาศัยเท่านั้น หากคุณเช่าบ้านมาสักระยะหนึ่งแล้ว ควรจริงจังในการเก็บเงินสักก้อนเพื่อซื้อบ้าน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่าการเช่าอยู่ ยิ่งเช่าอยู่นานเท่าไหร่เท่ากับคุณจ่ายค่าเสียโอกาสในการมีบ้านไปมากเท่านั้น อย่าลืมว่า บ้าน เป็นทรัพย์สินที่มีแต่ทวีเพิ่มสูงขึ้น    ปล่อยเช่าก็ได้ ขายต่อก็ราคาดี    บรรดาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆนั้น เท่าที่ผ่านมามูลค่ามักมีแต่จะคงที่หรือเพิ่มขึ้น การมีบ้าน คอนโด หรือ ทาวน์โฮม บ้านพักตากอากาศ  นั้น จัดว่าเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดเพราะนอกจากคุณจะได้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยแล้ว คุณยังสารถนำไปปล่อยเช่าเป็นรายได้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยแล้ว คุณยังสามารถนำไปปล่อยเช่าเป็นรายได้ต่ออีกทางหนึ่ง และคุณยังสมารถนำดอกเบี้ยที่คุณใช้ผ่อนบ้านมาหักภาษีอีกต่ออีกทาง ในขณะที่เมื่อคุณผ่อนไปเรื่อยๆจนยอดหนี้คงค้างลดลงกรรมสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของบ้านของคุณก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นการซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ นั้นมีแต่ได้กับได้เกิดขึ้นกับตัวคุณเอง บ้านพักตากอากาศ คือจุดเริ่มต้นของความมั่นคง
                        จะมีที่ใดที่จะเป็นจุดเริ่มต้นขอความรัก ความอบอุ่น และความผูกพัน ได้ดีเท่าที่บ้าน เพราะบ้านไม่ใช่เป็นที่พักพิงแต่ยังก่อให้เกิดความรู้สึกดี ๆ มากมายของสมาชิกในบ้าน ลองถามตัวเองว่าถามเวลาของตำแหน่งใหม่ของคุณหรือยัง ตำแหน่ง เจ้าของบ้าน” ที่คุณเป็นหัวหน้าครอบครัว กับโลกใบเล็ก ๆของคุณที่คุณจะใช้ชีวิตหลังจากการทำงานได้อย่างอิสระ ที่ที่มีคนคอยคุณกลับบ้าน ที่ที่มีคนรอดูละครหลังข่าวเรื่องโปรดร่วมกับคุณ ที่ที่คุณเป็นคนสำคัญที่สุด ที่ที่จะเติมเต็มเวลาและความผูกพันดีดีร่วมกัน สำหรับบางคน บ้านอาจจะหมายถึงคอนโดห้องเล็กๆ หรือทาวน์โฮม เก๋ ๆบ้านทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยวที่แบบสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ที่น่าสนใจ บ้านพักตากอากาศ สักหลังที่อยู่ไม่ไกลที่ทำงาน แต่บางคนบ้านอาจจะหมายถึงที่มีสนามรอบ ๆ มีพื้นที่สวนสำหรับปลูกต้นไม้ดอกไม้ มีที่สำหรับให้เด็ก ๆ วิ่งเล่น หรือธรรมชาติร่มรื่น ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้พักผ่อนและแอบภูมิใจในตัวคุณหากได้คำตอบว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ขอให้ความปรารถนานั้นเป็นจริงเพราะคุณเริ่มก้าวสู่ความมั่นคงแล้ว
            ค่านิยมของคนว่ายังไงก็ต้องมีบ้านเป็นเป้าหมาย เป็นเหมือนแรงผลักดัน เป็นแรงใจให้เรามีกำลังใจที่จะทำอะไรสักอย่างด้วยความตั้งใจ อดทน และมุ่งมั่นที่จะกระทำให้สำเร็จ ซึ่งจะแตกต่างจากคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต เพราะคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง จะรู้สึกถึงความเฉื่อยชา ไม่มีแรงผลักดันให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้า เปรียบเหมือนกับจักรยานที่โซ่ไม่เคยหยอดน้ำมัน เวลาปั่นไปก็จะเกิดความฝืด ทำให้ไปได้อย่างช้า ๆ
            ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของคนเมืองกับพื้นที่ที่มีอยู่เท่าเดิม การจับจองพื้นที่ให้กับตัวเอง จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทุกคนต่างแสวงหาทุกวันนี้บ้านเล็กลง บ้านหลังใหญ่ก็มีแต่แพงเหลือหลาย ทางออกที่ดีที่สุดของคนเมือง นั่นก็คือการพึ่งพาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบใหม่ที่ราคาประหยัด เพื่อการใช้ชีวิตในเมืองบางทีอาจเรียกว่า บ้าน”  ของผู้คนยุคศตวรรษที่ 20 ก็เป็นได้
            อย่างไรก็ตามทั้งบ้านและบ้านทาวน์เฮา ส์ย่อมมีทั้งข้อเด่นและด้อยตามความชอบของแต่ละบุคคล คราวนี่ เช่นเคย ดร.สมัย  เหมมั่น เตรียมข้อมูลต่าง ๆ สำหรับคนเมือง เพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตในบ้าน ได้รับรู้ และเข้าใจตั้งแต่วิธีการเลือก ตกแต่ง ออกแบบ ไล่ไปจนถึงการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข คุ้มค่าต่อการลงทุน ต้อนรับการท่องเที่ยวระดับ อาเซียน AEC เขาค้อ
     อย่างวันนี้ กระผมได้นั่งคุยกับท่าน ร.ตอ.ดร.นิติภูม นวรัตน์ ชื่อเดิม  ทำให้ผมเขาใจว่า ประเทศไทย เป็นจุดที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ทั้งสังคมและวัฒนธรรม อาหารการกิน การอยู่อาศัยที่เรียบง่าย เป็นที่น่าสนใจของคนต่างประเทศเป็นทางเลือกของชนชาติอื่น ทั้งกลุ่มยุโรปและรัสเซียและตะวันออกกลาง เป็นอย่างยิ่ง  อันนี้ น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 
ดร.สมัย  เหมมั่น
กรรมการบริหาร

            เปิดทางสู่...บ้าน ทันสมัยโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  หรือในภาษาไทยทางการเรียกว่า บ้านโมเดิล” ตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ได้ให้ความหมายไว้ว่า บ้านคืออาคารที่บุคคลสามารถแยกการถือกรรมสิทธิ์ออกเป็นส่วน ๆ โดยแต่ละส่วนประกอบด้วยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนบุคคล และกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินส่วนกลาง พูดง่าย ๆ บ้านก็เหมือนกับบ้านหลาย ๆ หลังที่อยู่ในโครงการจัดสรรที่พักอาศัย อยู่บนพื้นที่เดียวกัน ใช้พื้นที่ส่วนกลางซึ่งอาจเป็นสวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ที่จอดรถฯ ร่วมกัน แต่จะมีกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในโครงการจัดสรร บ้านโมเดิล บ้านพักตากอากาศ ” ของตนแยกกันไป โดยใน บ้านแต่ละห้องประกอบด้วยห้องต่างๆ แตกต่างกันออกไปตามขนาดของพื้นที่ใช้สอย แต่สอยแต่ส่วนมากจะมีฟังก์ชั่นครบเหมือนกับบ้านเดี่ยวทั่วไป เจ้าของบ้าน จึงสมารถตกแต่ง ปรับปรุง ดัดแปลงบ้านตนเองได้ตามใจชอบ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎ กติกา ที่ทางนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร (ผู้ดูแล จัดการพื้นที่ส่วนกลาง) กำหนดและไม่ทำความเดือดร้อนถึงเพื่อนบ้านข้างบ้าน รวมถึงทรัพย์สินส่วนรวมด้วย
            เคล็ดไม่ลับรู้ก่อนซื้อ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ปัจจุบันบ้าน นับเป็นปัจจัยของผู้ใช้ชีวิตในศูนย์กลางของเมือง และชานเมือง ราคาถูก เพราะช่วยเรื่องความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของคนมากขึ้น เมื่อคุณตัดสินใจจะซื้อ บ้านสักโครงการ และเข้าอยู่อาศัยสิ่งที่คุณควรคิด และตระหนักมีอยู่ลายข้อ และไม่ควรละเลย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง
            1) ทำเล ความสะดวกโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ใกล้นิคมอุตสาหกรรม จะถูกพัฒนาให้เป็นเมืองใหม่ และเป็นไปได้จะมีเมืองใหม่อยู่บนพื้นที่ใกล้ๆแห่งนี้ด้วย
            เมื่อจังหวัดเชียงใหม่    จะยังคงถูกวางแนวเส้นให้เป็นเมืองอุตสาหกรรม การเกษตร แต่จะตีกรอบพื้นที่การอนุรักษ์เมืองเก่าให้คงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุด พร้อมกับประสานแนวโครงการข่ายคมนาคมพัฒนาระบบรถไฟที่ทันสมัย  เพื่อเอื้อต่อระบบเศรษฐกิจ 
เมื่อนโยบายรัฐบาลสนับสนุนให้ เพชรบูรณ์ เมืองเป็นศูนย์กลาง อุตสาหกรรมอาหาร และการท่องเที่ยวและการค้าเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านทุกทาง ซึ่งในระยะ 5-10 ปี จำเป็นต้องขยายแบบ เมืองใหม่เพื่อรองรับ การเติบโตและความแออัดของโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ประสิทธิภาพ สนับสนุนการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่จัดหวัด
โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ด้วย ซึ่งทางยกระดับ แห่งใหม่น่าจะเกิดขึ้นหลังจาก 10 ปีนับจากนี้ ส่วนพื้นที่ที่มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้น่าจะอยู่ในพื้นที่ โครงการ ถนนเรียบชาย ทะเล  ที่จะมีถนนวงแหวนรอบนอกเชื่อมโยงอีก 1 เส้นระหว่างนิคม อุตสาหกรรมจังหวัด 
2.            ราคา  งบประมาณ ที่โครงการโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  โครงการควบคุมต้นทุนนับเป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ดร.สมัย  เหมมั่น กล่าวว่า การใช้ราคาที่ต่ำกว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดถือว่าเปรียบคู่แข่งในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน
3.            โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  เป็นแบบอย่างที่ดี นั้นบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยวที่แบบสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ที่น่าสนใจ บ้านพักตากอากาศ  เหมาะต่อการตัดสินใจในการให้บริการในเวลานี้ ประเด็นที่สำคัญคือประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยการพิจารณาจากเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ และรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยจากการสำรวจพบว่า 3 เหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด มีดังนี้การตัดสินใจใช้รับบริการ ให้ดูแลผู้ป่วยหรือ พ่อและแม่ หรือผู้อนุบาลต่างๆนั้นจักต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจึงต้องร่วมกันตัดสินใจหลายคน จึงต้องใช้พฤติกรรมหมู่ ร่วม ในการตัดสินใจ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ในการให้บริการมาร่วม 20 ปีในการประกอบอาชีพในการดูและผู้สูงอายุในนาม บ้านทองทิพย์ และร่วมบริหาร นี้ด้วย ประกอบกับชื่อเสียงของ บ้านทองทิพย์ มีชื่อเสียง ที่ดีจึงมีลูกค้า มากถึง 300 ชีวิตที่ฝากชีวิตไว้กับ บ้านทองทิพย์  ให้ดูแลผู้สองอายุหรือผู้อนุบาล ของตน และบอกต่อแนะนำลูกค้า ตลอดมา ตัดสินใจใช้กลยุทธ์นี้ตัดสินใจทำ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและการตลาดยุค AEC ในปัจจุบัน
        ปกติแล้วขึ้นอยู่กับราคาของทำเล ทีดิน การก่อสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนเรื่องงบประมาณขึ้นอยู่กับตัวคนซื้อว่าตั้งงบประมาณไว้ในใจเท่าไหร่ คิดละเอียดเป็นตารางเมตรจะดีมาก เพราะงบนี้จะบอกด้วยว่า ควรซื้อที่พักโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  แน่นอนว่า แต่ละคนมีงบประมาณต่างกัน ราคา ต่ำแห่นงก็ต่างกัน
            ปัจจุบัน โครงการจัดสรรใจกลางเมืองและชานเมืองแถว จ. ต่อตารางเมตรค่อนข้างสูง แต่ว่ามันจะมีโครงการจัดสรร ที่ราคาต่ำไปอีกนิดหนึ่ง หากยังมี บรรยากาศ ที่ดีใกล้เคียงกัน   ถ้าเป็นคนมีงบน้เชียงใหม่  ก็คงต้องดูต่อไปถึงเรื่องพื้นที่ใช้สอยต่อตารางเมตร” ไม่ต้องดูหลาย ๆ ที่ก็ดีเหมือนกัน ตัดสินใจว่า ราคาและสิ่งต่าง ๆ ถูกใจมากสุด นอกจากนี้อย่าลืมนึกไปถึงเรื่องเงินจอง เงินทำสัญญา เงินดาวน์ ค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิ์ และค่าบำรุงรักษาส่วนกลางคิดว่า ไม่เกินความสามารถ เท่าไหร่ต่อตารางเมตร ทำให้ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ไม่เกินความสามารถเท่าไหร่ต่อตารางเมตร ทำให้โครงการและ เลือกโครงการควบคุมต้นทุน เสนอราคาที่ต่ำตอบสนองของผู้บริโภค เพียง เริ่มตันที่ 999,999 บาทต่อหลัง ทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง ที่นำเสนอสินค้าประเภทเดียวกัน จำหน่าย มีส่วนต่างกันถึง 800,000 บาท

            3.)  ตำแห่นง ห้อง/ทิศทางโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ดร. สมัย เหมมั่น บอกว่าแต่ละโครงการออกแบบแตกต่างกัน ตำแหน่งแม้จะเป็นสิ่งที่ดูยากที่สุด แต่ควรดูเยอะๆสุดเหมือนกัน อีกทั้งนึกถึงตัวเองมากที่สุดคิดว่าเมื่อย้ายไปอยู่แล้วจะมีความสุขไหม ตรวจดูให้รอบๆ ว่าบ้านที่อาศัย ที่เราเลือกเป็นอย่างไร มีลม มีแสงไหม บางคนอาจไม่ชอบให้แสงเข้าห้อง ในตอนบ่าย เพราะจะทำให้บ้านร้อนมากหรือห้องบางมุมไม่มีแสงแดดเข้าเลยทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย ฉะนั้น ผู้ประกอบการโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  จัดการออกแบบที่ลดปัญหาสิ่งนี้ มีจุดเด่น เวลาซื้อพนักงานขายอาจจะบอกเลยว่ามุมนี้ ได้แสดง ได้ลม ได้อากาศ หรือเพดาน หรือ เพดานต่ำเกินไปไหม” เลือกหลังมุม หน่อยอาจจะได้วิวทัศน์ดี สามารถเปิดหน้าต่างรับลมได้ดี ส่วนเรื่องรูปลักษณ์อาคารก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการ ตัดสินใจ เลือกให้ตรงกับใจเรา หรือเลือกแบบกลางๆ ขึ้นอยู่กับรสนิยมด้วย
            พื้นที่ใช้สอย โครงการจัดสรรบ้าน โดยทั่ว ๆ ไป ต้องใช้ประโยชน์พื้นที่ใช้สอยทุกตารางเมตรให้คุ้มค่ามากที่สุด เหตุเพราะ พื้นที่น้อยที่จำกัด ฉะนั้น ควรต้องเลือกและดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ก็ใหญ่กว่าบ้าน ทั่วไปที่ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  ทำอยู่ ที่มีความชำนาญมากเป็นพิเศษพิจารณาให้แน่ใจว่า  โครงการเขาออกแบบมาอย่างดี น่าอยู่ คิดวิเคราะห์สัดส่วนพื้นที่ใช้สอย ก่อนออกแบบดีกว่าทุกโครงการใน ทำเล เดียวกัน เพราะขนาดพื้นที่ห้องมีผลต่อผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าคุณจะอยู่คนเดียวหรือ 2 คน ผู้ประกอบการออกแบบที่มีประสบการณ์เยอะ ทุกครั้งก่อนออกแบบ พวกเขาต้องมานั่งนึกการใช้ชีวิตประจำวันของคน ว่ามีความต้องการอะไรบ้าง ดูความเหมาะสมทุกอย่างว่า อะไรควรวางตรงไหนโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  มีการกำหนดดีไซน์ไว้ตายตัวว่าอะไรต้องวางตรงไหน ถ้าจัดวางไม่ดี หรือไม่มีกฎข้อบังคับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรด้วย มิฉะนั้น จะกลายเป็น .สลัม ตากอากาศ    แทนออกแบบให้ระเบียงหน้าชั้นสองส่วนเรื่องของระเบียงทั้งสองยืนยันจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีก็ทำให้ความเป็นอยู่สมบูรณ์ขึ้น  มีระเบียงก็ดี เพราะนั่นคอส่วนที่ทุกคนอยากได้เอาไว้วางแอ หากเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ มีระเบียงก็ดีไม่หลอกเพราะให้ความสดชื้น เป็นธรรมชาติ แต่ถ้าไม่มี ก็พิจารณาเอาว่าทางโครงการเขาจัดสวน หรือสถานที่พักผ่อน และอื่นๆ ตามที่เราต้องการหรือไม่ นอกจากนี้หน้าต่าง น่าจะมีหลายๆ บานเอาไว้เปิดรับลมธรรมชาติ วันธรรมดา ตื่นเช้ามาทุนคนอาจไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ แล้วต้องอยู่ห้อง คิดดูว่าเราจะอยู่อย่างไรโดยไม่มีหน้าต่าง เปิดแอ ก็ให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ทางที่ดีห้องนอนกับห้องพักผ่อนควรมีหน้าต่างเยอะๆ เอาไว้ชมวิวได้ด้วยเป็นที่สุด ทั้งนี้ เรื่องความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ จำเป็นมากโดยเฉพาะพื้นที่ส่วนครัวกับพื้นที่พักผ่อน ต้องแยกส่วนกันเด็ดขาด อีกทั้งครัวควรมีท่อระบายอากาศที่ดี ไม่มีกลิ่นเหม็นขณะทำอาหาร  ห้องน้ำก็แยกพื้นที่เปียก พื้นที่แห้งเพื่อความสะดวกและสุขสะดวกสุขอนามัยในการใช้สอย ดร.สมัย เหมมั่น กรรมการให้คำแนะนำการเลือกหาที่ดีๆ
            5. ชื่อเสียงผู้ประกอบการ  การก่อสร้างโครงการบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ทุกวันนี้ภาพรักษ์ของผู้ประกอบการ ถือว่ามีความสำคัญอันดับต้นๆ ที่ต้องพิจารณา เพื่อประกอบการตัดสินใจ จุดนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว บางทีจองแล้วสร้างไปครึ่งเดียว เกิดหยุดสร้างกลางคัน เพราะงบหมด  ทุกโครงการ เริ่มเปิดโครงการที่ 1 ถึง 10 จำหน่ายหมดทุกโครงการมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ทีมงานบริหารงานมกกว่า 10 ปียอดโครงการรวมแต่ละโครงการมากกว่า 1500 ล้านบาท มีประสบการณ์ที่ดีทั้ง สถาบันการเงิน และชื่อเสียงการตอบรับของลุกค้าที่อบสนองที่ดีตลอดมา ต้องดูย้อนกลับการเงิน และชื่อเสียงการตอบรับของลูกค้าที่ตอบสนองที่ดีตลอดมา  ต้องดูย้อนกลับไปถึงประสบการณ์ที่เขาทำ ความน่าเชื่อถือต่อธนาคาร ระบบการเงิน งบการก่อสร้าง
บางบริษัทที่เปิดทำโครงการใหม่ๆ อาจไม่ค่อยทราบหรือละเลยละเอียด บางอย่าง เมื่อสร้างไปทำให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง แต่ผู้ประกอบการที่ผ่านมาประเภทนี้มานาน มักจะรู้ว่าอะไรดีไม่ดี บางแห่งเป็นบริษัทที่ไม่ได้ทำแบบครบวงจรคือขายโครงการเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้จัดการในส่วนนิติบุคคล ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการบริหารพื้นที่ส่วนกลาง เช่นนั้นบริษัทที่ดีควรดูแลตั้งแต่ต้นจนจบบ้าน โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  จัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรโครงการที่ดี มีผู้พัฒนา และบริการจัดการอาคารที่ดี นั้นเท่ากับ ตัวคุณได้เลือกเพื่อนบ้านที่มีรสนิยมเหมือนกันแล้วส่วนหนึ่ง  เหมือนกับการสกรีนคนรอบแรกการคัดเลือกลูกค้า หรือเลือกกลุ่มเป้าหมาย  รวมถึงคุณอาจสอบถามจากบริษัทที่ดูแล ได้ว่า วัสดุที่ใช้ก่อสร้างมีความแข็งแรง คงทนเพียงใด เป็นวัสดุชนิดไหน หรือ วัสดุที่ใช้กั้นห้องมีความหนาเพียงใด มีเสียงเสร็จไม่สามารถทำได้  เพราะนี่คือคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อาศัย
            6) พื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภค โครงการ เรื่องราวเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับผู้จะเข้าอยู่อาศัย แต่ส่วนใหญ่ มักไม่ศึกษารายลเอียดทรัพย์สินส่วนกลางซึ่งมีผลกระทบอย่างมากบางโครงการเป็นทรัพย์สินของผู้ประกอบการ ผู้ซื้อต้องเสียค่าใช้จ่ายกับทรัพย์สินนั้น ถ้าไม่กระทบกับชีวิตและความสุขของเจ้าของร่วมอื่นๆ ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ส่วนมากมักมีความเห็นไม่ตรงกัน รวมถึงระบบสาธารณูปโภค ก็มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตแต่ละวัน  ตรวจสอบระบบน้ำ ระบบไฟเป็นอย่างไร ในกรณีที่อยู่ชั้นสูงๆ น้ำประปาไหลแรงเพียงพอหรือไม่  ดร.สมัย เหมมั่นรองกรรมการบริษัท ฯ เน้นหนัก ก่อนลูกค้าย้ายเข้าไปอยู่ใน โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  หากเกิดไฟดับ มีระบบไฟฉุกเฉินเพียงพอหรือไม่ การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดไหม รวมไปถึงเรื่องการจัดเก็บขยะ การจัดส่งไปรษณีย์ มีการติดตั้งเครื่องตรวจควันหรือหัวฉีดน้ำในตัว อาคารหรือไม่ ทางบันไดหนีไฟได้มาตรฐานเพียงใด นอกจากนี้สอบถามที่จอดรถมีเพียงพอต่อจำนวนคนที่พัก ให้ความสำคัญเป็นอย่างที่สุด จึงสร้างถนนเมน กว้าง 14 เมตร ตลอดโครงการ ส่วนถนนซอย กว้าง 9 เมตร กว้างมากที่สุด ในโครงการจัดสรรยื่นจนทะเบียนการจัดสรร ระบบบำบัดน้ำ เลือกใช้ ถังบำบัดของ พลัส  p2000 ขนาดความจุ 1600 จำนวน สองจุดรวมที่ไม่มี โครงการใดทำมาก่อน เพราะคำนึงธรรมชาติที่เป็นสำคัญ พร้อม สวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่ที่สวยงามร่มรื่นมากมายเป็นรูปประธรรม ประเด็นขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบแบบไหนแต่ควรดูเพิ่มเติมสักนิดมีถนนกว้างมากๆไหม มีลานจอดรถสำหรับผู้มาติดต่อหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจะทำให้คุณรำคาญใจก็เป็นได้ ที่ต้องมาแย่งจอดรถกับคนภายนอก
            7) สัญญาตินิติกรรม ที่  เลือกใช้กับลูกค้า โดยปกติผู้ซื้อทั่วไปมักละเลยต่อรายละเอียดของสัญญา เนื่องจากมีเนื้อหาค่อนข้างมาก และเป็นตัวบทกฎหมายส่วนใหญ่ทางที่ดีควรมีนักกฎหมายแนะนำ หรือไม่มีก็อ่านให้ละเอียด เพื่อทราบถึงสิทธิ ผลประโยชน์ ที่คุณได้รับหรือเสีย ผลประโยชน์ของคนซื้อ  กรณีของ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  กำหนดใช้สัญญา ส..บ ที่คุ้มครองผู้บริโภคเป็นหลักไม่ทำสัญญาเอง
            8) ระเบียบเงื่อนไขและนิติบุคคล โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  อย่างไรก็ตาม ระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ต่างๆ จะแตกต่างกันไปแต่โครงการจัดสรร และคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าทุกโครงการจัดสรร จะต้องจัดตั้งนิติบุคคลข้าดูแลทรัพย์สินและค่าใช้จ่ายส่วนกลาง   ผู้ซื้อต้องทราบว่าหลังจากรับมอบโครงการใครจะเป็นผู้เข้ามาดูแลเรื่องต่างๆ ในโครงการจัดสรร  อธิบายถึงวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายพื้นที่ส่วนกลางทุกอย่าง และต้องทราบถึงค่าใช้จ่ายส่วนกลางเท่าไหร่ต่อ สนับสนุนให้มีการจัดตั้งนิติบุคคลที่ทุกโครงการตลอด  การบริหารค่าใช้จ่ายส่วนกลางของนิติบุคคลจะคำนวณจากค่าใช้จ่ายส่วนกลางของนิติบุคคลจำคำนวณจากค่าใช้จ่าย โดยเก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางจากตัวเลขของค่าใช้จ่าย ซึ่งมีการวางแผนตั้งแต่เริ่มแรกว่าต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ ก่อนนำไปหารเป็นตารางเมตรก็จะรู้ทันทีว่าราคาเท่าไหร่และที่ ต้องทราบถึงระเบียบถึงระเบียบข้อปฏิบัติ และข้อห้ามนิติบุคคล เอาไว้ก่อนซื้อด้วย ว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของคุณหรือไม่.. ก็คุณต้องใช้ชีวิตที่นี่อีกนาน        
      ทางโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  เป็นคนกำหนดระเบียบกลางตามกรมส่งการจัดสรรกำหนดและจะเป็นคนกำหนดระเบียบต่างๆ ขึ้น อาทิ ห้ามเปิดร้านเตาแก๊ส ห้ามวางแอ ออกนอกอาคารห้ามจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ห้ามตากผ้า ห้ามเลี้ยงสัตว์เป็นต้น จากนั้นเมื่อทางโครงการแงตั้งบุคคลอาคารชุดเข้ามาดูแล ทางโครงการก็จะบอกถึงกฎระเบียบส่วนกลางให้นิติบุคคลอาคารชุดทราบต่อไป กฎระเบียบคร่าวๆได้รู้ เน้นความปลอดภัยของลูกบ้าน เป็นหลัก
            9) เลือกบ้านห้องตกแต่งเสร็จกับห้อง “ขึ้นอยู่กับความพอใจ และไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อ เพราะแต่ละคนที่ซื้อ ไม่ว่าจะแต่งเสร็จหรือห้องเปล่า ก็ต้องมีงบเตรียมไว้บ้างแล้ว  สิ่งที่เห็นอันดับแรกคือราคาต่างกัน เพราะห้องตกแต่งเสร็จจะบอกค่าออกแบบ ค่าช่าง ค่าเฟอร์นิเจอร์เสร็จสรรพ ส่วนห้องเปล่าเป็นห้องโล่ง ผู้ซื้อต้องตกแต่งเอาทั้งหมด
             หากโครงการไหนมีห้องตกแต่งเสร็จเยอะ ราคาเฉลี่ยทุกอย่างก็ถูกลง สมมุติกระเบื้องเขาซื้อมาครั้งหนึ่งเยอะๆ สักพันตารางเมตรกับซื้อเอง 20 ตารางเมตร ราคามันต่างกันอยู่แล้ว ค่าแรงก็เหมาเฉลี่ย หรือหากคุณมีงบประมาณ แต่งเองก็ได้ แต่ถ้าไม่มีถึง เลือกที่ทาง ออกแบบที่มีความโดดเด่นแบบ โมเดิลที่ไม่มีใครเหมือนในย่านนี้ ที่เหมาะสมราคาที่สนใจ บ้านพักตากอากาศ   สิ่งที่ลูกค้าชอบแบบตกแต่งเสร็จก็คือเข้ามาแล้วไม่ต้องการทำอะไรยกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เข้าอยู่ได้ทันที  แถมเลือกได้เหมือนกัน เพราะก่อนสั่งตกแต่ง บางโครงการจะให้เลือกว่าเอาเฟอร์นิเจอร์แบบไหนเช่น กระเบื้องปูพื้น สีผนัง  จุดนี้เอง ทำให้แต่ละห้องมีข้อต่างกัน ส่วนคนซื้อห้องเปล่า ตกแต่งเอง อาจได้ไลฟ์สไตล์ที่ถูกใจ โดนใจ ไม่ซ้ำใคร  เพราะคุณเป็นคนกำหนดงบประมาณเอง อยากได้อะไร ชอบแบบไหน ก็ซื้อมาตกแต่ง แต่ต้องดูละเอียดเรื่องพื้นที่ใช้สอยด้วย แบบแปลน รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ต้องคิด แก้ปัญหาเอง สำคัญที่สุด ต้องอยู่สบาย มีความสุข โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 
       จัดนักออกแบบที่มีความสามารถในการออกแบบบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ที่ต้องการออกแบบบ้านพักคนชราเอง ต่อเติม ไว้บริการเพิ่มเติมไวบริการฟรี ที่สำนักงานก่อสร้างพร้อมคำชี้แนะที่มีความรู้ พร้อมให้คำตอบกับลูกค้า
            10.  ตรวจสอบ ก่อนโอนโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่        เมื่อสร้างเสร็จ ก็เตรียมย้ายเข้าอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าของโครงการกับผู้ซื้อที่ต้องตรวจสอบทุกอย่างด้วยความละเอียดถี่ถ้วนว่า สิ่งที่เขาก่อสร้างถูกต้องตามแปลน ของ โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  มีอะไรแก้ไขหรือไม่ปกติงานพวกนี้เป็นงานฝีมือ ไม่ใช่งานเครื่องจักรที่ปั๊มออกมาแล้วจะเหมือนกัน ผนังบางส่วนอาจฉาบไม่เรียบบ้าง ก็ดูว่า ดูดี ไม่มีปัญหาก็ทำเรื่องขอโอนไป
            ปกติคนทำโครงการและ การก่อสร้างมีปัญหาหรือจะปรับเปลี่ยนอะไรเขาจะแจ้งลูกค้าก่อน เพื่อคุยกัน เช่นกระเบื้องที่เราสั่งหมดสะต๊อก ไม่มีผลิตเพิ่ม ทางโครงการจะเอากระเบื้องสีที่ใกล้กันมาแทน
มองว่าสะเปกสินค้าที่เอามาเปลี่ยน คุณภาพต้องไม่ต่ำกว่าเดิม หรือเท่าเดิม” หากมีปัญหาก็แย้งไป ไม่ต้องโอน เพราะเป็นสิทธิ์ของลูกค้าเอง หากทำไม่ตรงตามสัญญา ไม่ต้องกังวล เพราะสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเขามีกฎหมายคุ้มครองอยู่ เมื่อคิดจะซื้อโครงการจัดสรร วาดหวัง และคิดว่ารายละเอียดทุกอย่าง ต้องเหมือนกับห้องตัวอย่างซะหมด นาย สมัย เหมมั่น รองกรรมการ ให้ข้อคิด ในการเลือกซื้อบ้านโครงการและให้ท่านที่สนใจเก็บเป็นข้อมูลการประกอบการตัดสินใจให้ลูกค้าซื้อบ้านในโครงการ


ดร.สมัย เหมมั่น  กรรมการบริหาร


         วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน ปัญหาและอุปสรรค (SWOT Analysis)          
โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  จุดเด่นหรือจุดอ่อน (Strengths)ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายใน เป็นข้อดีที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในบริษัท เช่น จุดแข็งด้านการเงิน จุดแข็งด้านการผลิต จุดแข็งด้านทรัพยากรบุคคล บริษัทต้องใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดนี้ (ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้)
            จุดด้อยหรือจุดอ่อน (Weaknesses) ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายใน เป็นปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดสภาพแวดล้อมภายในต่างๆ ของบริษัทซึ่งบริษัท จะต้องหาวิธีในการปัญญานั้น (ยังไม่สามรถเปิดเผยข้อมูลได้)
            โอกาส (Opportunities)ซึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอก เป็นผลจากการที่สภาพแวดล้อมภายนอกของบริษัทเอื้อประโยชน์หรือส่งเสริมการดำเนินงานขององค์กร โอกาสแตกต่างจากจุดแข็งตรงที่โอกาสนั้นเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อม ภายนอก แต่จุดแข็งนั้นเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมภายใน นักการตลาดที่ดีจะต้องเสาะแสวงหาโอกาสอยู่เสมอ ประใช้ประโยชน์จากโอกาสนั้น (ยังไม่สามรถเปิดเผยข้อมูลได้)โครงการติดแม่ปิง  ตั้งชื่อ แม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 
            อุปสรรค (Threats) ซึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอก เป็นข้อจำกัดที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งธุรกิจจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องและพยายามขจัดอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้น (ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้)
            กลยุทธ์ทางการตลาด เป็นแผนการดำเนินการใช้ช่วงระยะสั้น 3-6 เดือนโดยจะดำเนินการหาข้อมูลทางการตลาด เตรียมช่องทางการขาย เครื่องมือเครื่องใช้ทางด้านการตลาด เตรียมช่องทางการขาย เครื่องมือเครื่องใช้ทางด้านการตลาด โดยทำการทดสอบเชิงรุกแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่มลูกค้ารวมเป็นการปรับปรุงภาพลักษณ์และคุณภาพของโครงการ และการจัดสรรระบบงานของโครงการเป็นหลัก ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
1.จัดทำและดำเนินการติดตั้งป้ายบอกทางขนาดเล็กเข้าโครงการ ขนาด 40x40 ซม. ทำการติดตั้ง ทางเข้าโครงการด้านหน้า ผ่านลัดเละหมู่บ้านไปจนถึงซุปเปอร์ถนนเอกชันและ ถนนสาย 4
2. จัดทำป้ายหน้าโครงการ ธงสี และธงริ้วเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ของโครงการ
3. จัดทำป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่โฆษณาโครงการ จำนวนxxจุด
4. ปรับปรุงภาพลักษณ์ของโครงการโดยการปรับปรงบริเวณพื้นที่แปลงขายให้สวยงามตามความเหมาะสม และปรับปรุงระบบไฟแสงสว่าง รอบแปลงขายรวมทั้งบริเวณอาคารสำนักงานขาย
5. จัดทำเอกสารประกอบการขายและจดหาเครื่องมือในการขาย
6. จัดหาสถานที่เพื่อทำแผนการขาย
7.จัดหาพนักงานขายแบบชั่วคราวเฉพาะกิจกรรมแต่ละครั้ง จำนวน คน
8. จัดหาอุปกรณ์สนับสนุนการขาย เช่นยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์

กลยุทธ์ทางด้านการขาย จัดการขายโดยแบ่งเป็นการขาย แบบขายตรงและแบบขายแบบผ่านตัวแทน โดยการขายตรงจะใช้การขายบนอินเตอร์เน็ตและการจัดบู้ธการขายในงานอีเว้นท์ ต่าง ๆ รวมทั้งการตั้งจุดขาย ณ กลุ่มเป้าหมายหลักเพื่อนำเสนอโครงการบ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยวที่แบบสวยงาม มีให้เลือกหลายแบบ ที่น่าสนใจ บ้านพักตากอากาศ ให้กลุ่มเป้าหมายด้านการขายแบบผ่านตัวแทน(ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้)แผนการตลาดเนื่องจากในระยะเริ่มต้นยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้กับลูกค้าชม จะใช้วิธีการขายที่ดินแล้วให้ลูกค้าเลือกแบบบ้าน ตามที่เราได้คัดเลือกมาโดยจัดหาแบบบ้านที่สวยงามและเหมาะสมเช่น แบบบ้านสำเร็จรูป แบบบ้านประหยัดพลังงาน โดยเน้นความเป็นโม ดำเนินการขอความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนเพื่อให้มาจัดงานต่าง ๆ มีความสุข คุ้มค่าต่อการลงทุน ต้อนรับการท่องเที่ยวระดับ อาเซี่ยน AEC เขาค้อ

              อย่างวันนี้ กระผมได้นั่งคุยกับท่าน ร.ตอ.ดร.นิติภูม นวรัตน์ ชื่อเดิม  ทำให้ผมเขาใจว่า ประเทศไทย เป็นจุดที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ทั้งสังคมและวัฒนธรรม อาหารการกิน การอยู่อาศัยที่เรียบง่าย เป็นที่น่าสนใจของคนต่างประเทศเป็นทางเลือกของชนชาติอื่น ทั้งกลุ่มยุโรปและรัสเซียและตะวันออกกลาง เป็นอย่างยิ่ง  อันนี้ น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ใน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โครงการบ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา เขาค้อ เหมาะต่อการตัดสินใจในการให้บริการในเวลานี้ ประเด็นที่สำคัญคือประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยการพิจารณาจากเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ และรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยจากการสำรวจพบว่า 3 เหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติหลังเกษียณอายุมากที่สุด มีดังนี้การตัดสินใจใช้รับบริการ ให้ดูแลผู้ป่วยหรือ พ่อและแม่ หรือผู้อนุบาลต่างๆนั้นจักต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจึงต้องร่วมกันตัดสินใจหลายคน จึงต้องใช้พฤติกรรมหมู่ ร่วม ในการตัดสินโครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ริมแม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  เรามีกลยุทธ์ที่ดีในการให้บริการและมีประสบการณ์ ในการให้บริการมาร่วม 20 ปีในการประกอบอาชีพในการดูและผู้สูงอายุในนาม บ้านทองทิพย์ และร่วมบริหารโครงการ และทีมบริหารทั้งหมดเรามีประสบการณ์ที่ยาวนาน ในการประกอบอาชีพ และประสบความสำเร็จอย่างมากมาย


                     หลักการบริหารที่ใช้ในธุรกิจ ของโครงการดังนี้

1. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่
มองการพัฒนาการการจัดการภาครัฐแนวใหม่จะเห็นว่า พัฒนามาจากการจัดการภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดการภาครัฐในแนวทางการจัดการเพื่อการปลดปล่อยและแนวทางการจัดการทีมุ่งเน้นตลาด และการจัดการภาครัฐทั้ง 2 แนวทางนี้ก็มีรากฐานมาจากทฤษฎีทางเลือกสาธารณะ และเศรษฐศาสตร์สถาบันใหม่ หรือเศรษฐศาสตร์องค์การ มีลักษณะเด่นคือ ความพยายามแก้ปัญหาของระบบราชการแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพและการให้บริการประชาชน ซึ่งหัวใจสำคัญของการจัดการภาครัฐแนวใหม่ก็คือ การปฏิรูประบบราชการนั้นเอง
ดังนั้นในสถานการณ์ปัจจุบันท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ แนวโน้มการเปิดเสรีในด้านต่าง ๆ เศรษฐกิจไร้พรมแดน การแข่งขันในเวทีโลกรุนแรงมากขึ้น เศรษฐกิจ สังคมเข้าสู่ยุคแห่งการเรียนรู้ กระแสสังคมเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยการบริหารจัดการแนวใหม่ที่ยึดหลักธรรมาภิบาล ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกประเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องเพิ่มศักยภาพและความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของระบบที่เปลี่ยนแปลงไป

2. ทฤษฎีองค์การ
ความรู้เกี่ยวกับ องค์การ
1.ความหมายขององค์การ หมายถึง หน่วยงาน อาจจะเป็นภาครัฐ เอกชน องค์กรระหว่างประเทศ  กลุ่มคนที่มารวมตัวกัน ภายใต้โครงสร้าง โดยมีเป้าหมายบางสิ่งบางอย่าง ที่ต้องการให้บรรลุวัตถุประสงค์
2.องค์ประกอบขององค์การ
2.1 จุดมุ่งหมายของโครงการ หรือวัตถุประสงค์ที่มีการจัดตั้งองค์การและเป็นทิศทางในการทำงาน ตลอดจนเป็นทิศทิศทางของการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายในองค์การ องค์การหนึ่ง องค์การอาจจะมีจุดมุ่งหมายได้มากกว่า ข้อ หลัก ๆ มี ข้อ คือ
                            เพื่อแสวงหากำไร
                            - เพื่อบริการลูกค้า
                          - เพื่อช่วยเหลือสังคม
                             2.2 โครงสร้างขององค์การ คือ ระบบให้ความสำคัญของคนที่เข้ามาทำงานร่วมกันในองค์การว่าใครมีความสำคัญใครเป็นหัวหน้า ใครเป็นลูกน้อง ใครเป็นผู้ออกคำสั่ง ใครเป็นผู้รับคำสั่ง โครงสร้างขององค์การจะเป็นตัวที่ทำให้เห็นระบบงานทั้งหมดขององค์การ ว่าเริ่มต้นตรงไหน
ส่งต่อไปที่ใคร และสิ้นสุดที่ไหน โครงสร้างขององค์การอาจจะถูกจัดลำดับโดยใช้ความสำคัญของคนหรือความสำคัญของงานก็ได้

                             2.3 บุคลากร บุคคลกับองค์การต้องไปด้วยกัน ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน
                             2.4 สภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อมภายนอก
                      -สภาพแวดล้อมทั่วไป คือแรงผลักดันที่อยู่ภายนอกองค์การ แต่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานขององค์การหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เช่น อิทธิพลทางการเมือง กฎหมายและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สังคมและวัฒนธรรม
                      -สภาพแวดล้อมที่มีโดยตรงต่อการดำเนินการขององค์การ เช่น ลูกค้าหรืผู้รับบริการ วัตถุดิบ ตลาดแรงงาน
สภาพแวดล้อมภายใน  หมายถึงทรัพยากร เช่น คน เงิน วัสดุ เทคนิคการจัดการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น
3.ลักษณะขององค์การ มี ลักษณะ คือ
             3.1 องค์การเป็นลักษณะของกลุ่มบุคคล ที่มาทำงานร่วมกัน โดยมีความเชื่อว่า คนเพียงคนเดียวไม่สามารถ กระทำสิ่งต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองได้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีกลุ่มบุคคลในองค์ก็การก็ย่อมเกิดการขัดแย้งเกิดขึ้น ทั้งในลักษณะที่เป็น Personal conflict และ Technical conflict เพื่อทำให้องค์การเกิดการพัฒนา อาจจะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนก็ได้
             3.2 องค์การเป็นโครงสร้างของความสัมพันธ์ คือ คนที่เข้ามาอยู่ร่วมกันต้องมี การกำหนดความสัมพันธ์ของคนและงานต่างๆทที่อยู่ภายในองค์การนั้นว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างไร
          3.3 องค์การเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารหรือการจัดการ องค์การเป็นขั้นตอนขั้นตอนหนึ่งของการบริหารและการบริหารจัดการก็เป็นส่วนหนึ่งขององค์การเช่นกัน โดยอาจจะเอาหลัก POSDCORB MODEL เข้ามาใช้
                          P Planing
                          O Oganizing
                          S Staffing
                          D Directing
                          CO Co-ordinating
                          R Reporting
                          B Budgeting
             3.4 องค์การเป็นกระบวนการ เมื่อมีการจัดองค์การก็ต้องนำเทคนิคการบริหารจัดการมาใช้ ( การบริหารเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการ ) โดยการกำหนดเป็นขั้นตอน เป็น ขั้นตอน คือ
                  1.การกำหนดเป้าหมาย ที่ชัดเจนว่าเน้นด้านไหน อย่างไร
                  2.การแบ่งงาน เป็นฝ่ายต่างๆที่ชัดเจน เช่น ฝ่ายผลิต ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการตลาด ฝ่ายจัดหา
                  3.การจัดบุคคลเข้าทำงาน ให้ตรงกับความรู้และความสามารถของบุคคล
                  4.การสร้างความสัมพันธ์ กำหนดความสัมพันธ์ของอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ของแต่ละตำแหน่ง
             3.5 องค์การเป็นระบบระบบหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยต่างๆ คือ
                  - ระบบเปิด คือ จะให้ความสนใจสภาพแวดล้อมภายนอกองค์การ
                  - ระบบปิด คือ ให้ความสนใจสภาพแวดล้อมภายในองค์การเพียงอย่างเดียว
4.ประเภทขององค์การ
             4.1 แบ่งตามการจัดระเบียบภายในองค์การ
                          4.1.1 องค์การที่เป็นทางการ ( รูปนัย ) คือ มีการจัดตั้งโดยมี กฎหมายรองรับ มีการกำหนดโครงสร้างที่ชัดเจน มีการกำหนดสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน ( ภายในองค์การที่เป็นทางการจะมรองค์การที่ไม่เป็นทางการแทรกอยู่เสมอ )
                          4.1.2 องค์การที่ไม่เป็นทางการ (อรูปนัย) เป็นองค์การที่จัดตั้งขึ้นจากความสัมพันธ์ของกลุ่มคนในองค์การ ไม่มีกฎหมายหรือระเบียบมารองรับ เช่น สโมสร ชมรม กลุ่มต่างๆ อาจแบ่งเป็นกลุ่มได้ กลุ่ม คือ องค์การสาธารณะและองค์กรเอกชนหรือเอกชนธุรกิจ              4.2 แบ่งโดยการถือกำเนิด
                          4.2.1 องค์การแบบปฐม คือ เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เช่น ครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล ศาสนา
                          4.2.2 องค์การแบบมัธยม คือ มนุษย์จัดสร้างขึ้น
5.วัตถุประสงค์ขององค์การ
             5.1 ทางเศรษฐกิจหรือกำไร
             5.2 ทางด้านบริการ
             5.3 ทางด้านสังคม เช่น ทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน
6. ความสำคัญขององค์การ
          6.1 ด้านการระดมสรรพกำลัง เป็นแหล่งรวมทรัพยากรทางด้านการบริหาร
          6.2 สร้างความเข้มแข็งหรืออำนาจในการดำเนินกิจกรรม เป็นการสร้างอำนาจในการแข่งขันหรือต่อรองกับหน่วยงานอื่นๆ
             6.3 เป็นหน่วยการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ทันสมัยและประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยอยู่เสมอ
             6.4 เป็นแหล่งพัฒนาทักษะการทำงาน
7.ความแตกต่างระหว่างทฤษฎีองค์การและพฤติกรรมองค์การ
        ข้อแตกต่าง ระหว่างทฤษฎีและพฤติกรรม
              1.ทฤษฎีองค์การ คือ การศึกษาองค์การในระดับมหัพภาค หน่วยในการวิเคราะห์ คือ
                          1.หน่วยงานย่อยในองค์การ
                          2.องค์การทั้งองค์การ
              2.พฤติกรรมองค์การ คือ การศึกษาองค์การระดับจุลภาค หน่วยในการวิเคราะห์ คือ
                          1.บุคคล ( ปัจเจกบุคคล )
                          2.กลุ่มในองค์การ
8.ทัศนะเกี่ยวกับการศึกษาองค์การ
             8.1 ทัศนะเชิงความสมเหตุสมผลตามสถานการณ์ เป็นการศึกษาที่มุ่งเน้น ว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้องค์การมีการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และรักษาสภานภาพขององค์การไว้ได้
             8.2 ทัศนะของมาร์กซีสม์ เป็นการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์และอำนาจ
             8.3 ทัศนะเชิงเศรษฐศาสตร์ต้นทุนของธุรกิจ เป็นทัศนะที่เน้นทางด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งพัฒนามาจากแนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ 
ทฤษฎีองค์การ
1. ทฤษฎีสมัยดั้งเดิม เป็นยุคพื้นฐาน จุดเน้น คือ
          1.ให้ความสำคัญและศึกษาองค์การที่เป็นทางการเท่านั้น
          2.มุ่งค้นหาวิธีการบริหารองค์การว่าทำอย่างไรองค์การจะมีประสิทธิภาพ (การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ )และประสิทธิผลสูงสุด ( ได้ผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ )
          3.มองพนักงานเปรียบเสมือนเครื่องจักรและเชื่อว่าปัจจัยที่จูงใจคนได้ คือ ปัจจัยทางเศรษฐทรัพย์หรือเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


                                             ใช้หลักการบริหารงาน
นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการองค์กรธุรกิจ

ความพอประมาณ
1. มีการเจริญเติบโตและขยายกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 -ปัจจุบัน)
2. ประกอบธุรกิจเฉพาะด้านที่ชำนาญ คือ การจัดการบริหารงานการก่อสร้าง การขายอสังหาฯ การบริการผู้สูงอายุ ที่ชำนาญการ ฯลฯ โดยประกอบธุรกิจตามกำลังความสามารถ ใช้เงินทุนส่วนเจ้าของเท่านั้น
3. มีการวางแผนในการลงทุนอย่างรอบคอบไม่สร้างภาระหนี้สินให้เกิดความเสี่ยง เช่น      ซื้อเครื่องมือ/เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตด้วยเงินกำไรสะสม เป็นต้น
4. ใช้เทคโนโลยีทันสมัยแต่ราคาไม่แพง ผลิตโดยคนไทยเป็นหลัก
5. มีขนาดโรงงาน-อาคารที่เหมาะสมกับความสามารถในการบริหารจัดการ
6. วางแผนอัตรากำลังคนที่เหมาะสมกับสภาพการทำงาน เช่น รับพนักงานเท่าที่จำเป็น จัดคนให้เหมาะสมกับงาน มีการโยกย้ายพนักงานเพื่อให้พนักงานมีโอกาสพัฒนาตนเอง

ความมีเหตุมีผล
1. มีการวางระบบในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เช่น ISO 9001
2. ใช้วัตถุดิบในประเทศเพื่อกระจายรายได้สู่เกษตรกรไทย  และเพื่อให้คงคุณภาพของอาหารไทย  ทั้งการผลิต-การให้บริการ ยกเว้นแต่ในกรณีวัตถุดิบในประเทศขาดแคลน จึงจะใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศทดแทนเป็นครั้งคราว
3. ซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตเฉพาะในแต่ละวัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ มีคุณภาพ
 4. ใช้ภูมิปัญญาไทยเป็นหลักในการประกอบธุรกิจ ทำให้ง่ายต่อการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ
5. ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่อผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล โดยใช้เทคโนโลยีภายในประเทศเป็นหลัก
6. มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น มีการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตลอดเวลา หรือมีการพัฒนาศักยภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ตลอดจนส่งเสริมให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องจักรเพื่อลดต้นทุนการผลิต และยังมีการตรวจสอบคุณภาพ       ทุกขั้นตอน โดยห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพภายใน และส่งตรวจภายนอก QC
7. มีการประหยัดทรัพยากรทุกประเภทเพื่อประหยัดต้นทุน และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของธุรกิจ
8. มีการวางแผนตรวจสอบซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องจักรตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันเครื่องจักรชำรุด จะได้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร

มีภูมิคุ้มกันที่ดี
1. มีความระมัดระวังในการขายสินค้า คือ ลูกค้าต้องชำระเงินค่าสินค้าก่อนทำการส่งมอบ
2. ลดความเสี่ยงในการผลิต เช่น ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น/ที่อยู่ในประเทศ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยกระจายการรับซื้อไปยังภาคต่างๆ ของประเทศ
3. กระบวนการผลิตมีอัตราการสูญเสียน้อย 0.05 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ใช้วัตถุดิบสดที่ได้รับการคัดสรรว่ามีคุณภาพ และมีการควบคุมกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน ทำให้ไม่มีปัญหาด้านสินค้าไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน เนื่องจากบริษัทเข้มงวดด้านความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นที่นิยมตลอดมา
5. ใช้เทคโนโลยี/เครื่องจักรที่ผลิตในประเทศไทย เช่น เครื่องทอดอัตโนมัติ เครื่องแยกกากมะขาม ฯลฯ และจะซื้อเครื่องจักร/เทคโนโลยีต่างประเทศเฉพาะที่ประเทศไทยผลิตเองไม่ได้เท่านั้น ทำให้ประหยัดงบการลงทุนด้านเครื่องจักรเป็นอย่างมาก
6. มีช่องทางการจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ (70:30) ทำให้กระจายความเสี่ยงด้านการตลาด และใช้นโยบายขยายตลาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบและที่สำคัญ คือ ผลิตเอง จำหน่ายเอง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. มีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่
 8. จ้างแรงงานไทย 100 เปอร์เซ็นต์ เน้นชุมชนใกล้เคียง ทำให้ไม่ขาดแคลนแรงงาน และดูแลเอาใจใส่พนักงานอย่างดี ทำให้พนักงานพึงพอใจที่จะทำงานด้วยอย่างยาวนานและมีความสุข
9. มีระบบการประเมินผลและติดตามผลการปฏิบัติงานตลอดเวลา เช่น รายงานยอดขาย ระบบตรวจสอบคุณภาพการปฏิบัติงาน การประเมินผลการปฏิบัติงาน ทำให้สามารถรู้ปัญหาและแก้ปัญหาได้เร็ว
10. มีการจำหน่ายวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ

ความรู้
1. ส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เช่น จัดอบรม เพิ่มพูนความรู้ความสามารถ หรือมีการประชุมระดมความคิดของพนักงานเพื่อพัฒนาระบบงาน เป็นต้น
2. ส่งเสริมให้พนักงานได้รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ โดยการติดประกาศข่าวสารให้พนักงานทราบ
3. มีการอบรมให้พนักงานใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เช่น การบดละเอียด การทอด การอบ และการบรรจุ เพื่อให้ผลผลิตที่ได้รับเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เป็นการนำความรู้มาใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานจริง
4. ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ โดยมีการวางแผนการผลิตและกระบวนการผลิตให้เหมาะสมในแต่ละวัน โดยไม่ผลิตเพื่อเก็บสำรองไว้ในคลังสินค้ามากเกินไป เนื่องจากจะทำให้ผลิตภัณฑ์ ค้างสะต้อก ลดต้นทุน
5. ใช้ระบบตรวจสอบคุณภาพตามหลักวิชาการทุกขั้นตอน
6. มีการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านกับ
คุณธรรม
1. ใช้วัตถุดิบที่ผ่านการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยมีการควบคุมทั้งด้านกายภาพ เคมี จุลชีววิทยา และควบคุมสุขอนามัยในการผลิต เช่น ป้องกันไม่ให้มีสิ่งปนเปื้อน
2. ให้ความสำคัญกับลูกค้า ยึดหลักซื่อสัตย์ ยุติธรรม เน้นคุณภาพ ของผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจ
3. คำนวณต้นทุนในการผลิตให้เป็นสัดส่วนกับกำไรที่เหมาะสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีราคาไม่แพง
4. ให้การดูแลพนักงานอย่างใกล้ชิด เช่น มีบ้านพักให้เป็นที่อยู่อาศัยภายในโรงงาน ดูแลสวัสดิการในด้านต่าง ๆ อาทิ เช่น ให้ข้าวพนักงานทานฟรี ให้ทุนการศึกษาแก่บุตร-หลานของพนักงาน ช่วยค่ารักษาพยาบาลที่เกินจากประกันสังคม จัดอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำงาน มีกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นต้น
5. มีความซื่อสัตย์สุจริตและปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล มีกองทุนประกันสังคม เป็นต้น
6. ส่งเสริมให้พนักงานทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และปฏิบัติตนตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง ไม่โลภ              ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เช่น ประกาศยกย่องผู้ที่มีความซื่อสัตย์เก็บกระเป๋าสตางค์ของเพื่อนพนักงานได้ หรือมอบรางวัลให้แก่บุคคลที่ทำความดีหรือมีความซื่อสัตย์กับบริษัท เป็นต้น
7. ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในด้านต่างๆ เช่น อำนวยความสะดวกด้านสถานที่และอาหาร          แก่หน่วยงานภาครัฐโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ให้ความร่วมมือกับตำรวจด้านสารเสพติด ร่วมงานแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้าราคาถูกแก่ประชาชน ในเขตที่อยู่และพื้นที่ใกล้เคียง
8. ให้ทุนการศึกษากับนักเรียนนักศึกษาเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมทั้งให้นักศึกษาเข้าศึกษาดูงานของบริษัท ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมพุทธศาสนา เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่าสามัคคี หรือส่งเสริมกีฬาเพื่อสร้างความสามัคคีและลดปัญหาด้านสารเสพติด




การวิเคราะห์สถานการณ์ (SWOT Analysis)
จุดแข็ง
1.             ผู้บริหารมีความรู้ และประสบการณ์อสังหาฯและดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างดี และดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องมาเป็นเวลายาวนาน
2.             มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แน่นอนทั้งภายในและต่างประเทศ ทำให้สามารถลดความเสี่ยงด้านการตลาดอสังหาฯและบริการ
3.             ได้รับการยอมรับคุณภาพสินค้าจากลูกค้าและบอกต่อจนทำให้ธุรกิจยั่งยืน ทั้งในและต่างประเทศ และสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจตนเอง
4.             ใช้ต้นทุนการผลิตในประเทศ ทำให้สามารถตั้งราคาขายได้ถูกกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันในตลาดได้ เพราะผลิตเอง จำหน่ายเอง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.             กิจการใช้วัตถุดิบที่จำเป็นในการผลิตบ้านจัดสรร ทั้งคุณภาพวัสดุใหม่ การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐาน
6.             มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาผลิตภัณฑ์กับศักยภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง
7.             ตราสินค้าของกิจการยังเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคมากทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทฯ รักษามาตรฐานการผลิตสินค้าให้เป็นที่ไว้วางใจจากผู้บริโภคตลอดมา
จุดอ่อน
1.             กิจการมีการดำเนินการในใช้แรงงานคนมากกว่าเครื่องจักร ทำให้กำลังการผลิตเป็นไปได้ยาก
2.             พนักงานส่วนใหญ่เป็นพนักงานระดับแรงงาน ทำให้การพัฒนาทักษะฝีมือต้องใช้เวลามาก
3.             สถานที่ตั้งโครงการ มีคู่แข่งในการลงทุน อสังหาฯ ทำให้เกิดข้อจำกัดในด้านการขยายกำลังการผลิต
โอกาส
               การบริการดูแลผู้สูงอายุ ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน และเป็นอาชีพบริการที่สังคมให้ความนับถือที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ลูกค้ามาโดยตลอด ทำให้สินค้าและการบริการสามารถขายการบริการได้อย่างสม่ำเสมอ
1.              รัฐบาลมีนโยบายในการที่จะส่งเสริมธุรกิจ อสังหาฯ ขนาดกลางและขนาดเล็กอย่างจริงจัง ทำให้เป็นโอกาสในการขยายการผลิตตลอดเวลา
2.              โครงการแม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ติดริมริม1กิโลเมตร แม่น้ำ ปิง ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 
3.              อุปสรรค
1.             บ้านจัดสรรเป็นอุตสาหกรรมที่ลงทุนมีกำไรมาก ทำให้มีคู่แข่งในตลาดจำนวนมาก
2.             สินค้าเลียนแบบได้ง่าย  ทำให้กิจการจำเป็นต้องสร้างความแตกต่าง รวมทั้งสร้างการรับรู้ใน ตราสินค้าให้กับกับผู้บริโภค
3.             เทคนิคการบริการและฝีมือการทำการก่อสร้างของผู้ผลิตแต่ละรายไม่แตกต่างกันมาก  ทำให้ผู้บริโภคแยกความแตกต่างของสินค้าได้ยากลูกค้ามีสิทธ์เลือกมาก
4.             การบริการดูแลผู้สูงอายุใช้ เงินค่าใช้จ่ายสูงในการดูแล ดังนั้นทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องของการขอรับใช้การบริการลดลง หรือความผันผวนของเศรษฐกิจ ลูกค้าลดรายจ่ายทำให้ลูกค้าลดจำนวนในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี


จังหวัดเชียงใหม่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไบยังการนำทางไปยังการค้นหา
"เชียงใหม่" เปลี่ยนทางมาที่นี่ สำหรับความหมายอื่น ดูที่ เชียงใหม่ (แก้ความกำกวม)
จังหวัดเชียงใหม่
ตราประจำจังหวัดเชียงใหม่
ตราประจำจังหวัด
ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า
บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์
ข้อมูลทั่วไป
อักษรไทย เชียงใหม่
อักษรโรมัน Chiang Mai
ชื่อไทยอื่น ๆ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
รัตนติงสาอภินวบุรีเชียงใหม่
ผู้ว่าราชการ ศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2561)
ข้อมูลสถิติ
พื้นที่ 20,107.057 ตร.กม.[1]
(อันดับที่ 2)
ประชากร 1,746,840 คน[2] (พ.ศ. 2560)
(อันดับที่ 5)
ความหนาแน่น 86.87 คน/ตร.กม.
(อันดับที่ 56)
ISO 3166-2 TH-50
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ต้นไม้ ทองกวาว
ดอกไม้ ทองกวาว
สัตว์น้ำ ปลากา
ศาลากลางจังหวัด
ที่ตั้ง ภายในศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300
โทรศัพท์ (+66) 0 5311 2713
เว็บไซต์ จังหวัดเชียงใหม่
แผนที่
 
ประเทศมาเลเซียประเทศพม่าประเทศลาวประเทศเวียดนามประเทศกัมพูชาจังหวัดนราธิวาสจังหวัดยะลาจังหวัดปัตตานีจังหวัดสงขลาจังหวัดสตูลจังหวัดตรังจังหวัดพัทลุงจังหวัดกระบี่จังหวัดภูเก็ตจังหวัดพังงาจังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดระนองจังหวัดชุมพรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดเพชรบุรีจังหวัดราชบุรีจังหวัดสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสาครกรุงเทพมหานครจังหวัดสมุทรปราการจังหวัดฉะเชิงเทราจังหวัดชลบุรีจังหวัดระยองจังหวัดจันทบุรีจังหวัดตราดจังหวัดสระแก้วจังหวัดปราจีนบุรีจังหวัดนครนายกจังหวัดปทุมธานีจังหวัดนนทบุรีจังหวัดนครปฐมจังหวัดกาญจนบุรีจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจังหวัดอ่างทองจังหวัดสิงห์บุรีจังหวัดสระบุรีจังหวัดลพบุรีจังหวัดนครราชสีมาจังหวัดบุรีรัมย์จังหวัดสุรินทร์จังหวัดศรีสะเกษจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดอุทัยธานีจังหวัดชัยนาทจังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดยโสธรจังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดมหาสารคามจังหวัดขอนแก่นจังหวัดชัยภูมิจังหวัดเพชรบูรณ์จังหวัดนครสวรรค์จังหวัดพิจิตรจังหวัดกำแพงเพชรจังหวัดตากจังหวัดมุกดาหารจังหวัดกาฬสินธุ์จังหวัดเลยจังหวัดหนองบัวลำภูจังหวัดหนองคายจังหวัดอุดรธานีจังหวัดบึงกาฬจังหวัดสกลนครจังหวัดนครพนมจังหวัดพิษณุโลกจังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดสุโขทัยจังหวัดน่านจังหวัดพะเยาจังหวัดแพร่จังหวัดเชียงรายจังหวัดลำปางจังหวัดลำพูนจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแผนที่ประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่เน้นสีแดง
เกี่ยวกับภาพนี้

สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
จังหวัดเชียงใหม่ (คำเมือง: Lanna-Chiang Mai.png เจียงใหม่) เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20,107 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีประชากร 1,746,840 คน มากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ในจำนวนนี้เป็นประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและชานเมือง 960,906 คน โดยจังหวัดเชียงใหม่ทิศเหนือติดต่อกับรัฐฉานของเมียนมา
จังหวัดเชียงใหม่มีเขตเมืองที่จัดเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของประเทศไทยรองจากกรุงเทพมหานคร มีประชากรในเขตเมืองและชานเมือง 960,906 คน (พ.ศ. 2553) จังหวัดเชียงใหม่แบ่งการปกครองออกเป็น 25 อำเภอ โดยมีอำเภอเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางของจังหวัด เมื่อ พ.ศ. 2552 มีการจัดตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนาเป็นอำเภอลำดับที่ 25 ของจังหวัด และลำดับที่ 878 ของประเทศ ซึ่งเป็นอำเภอล่าสุดของไทย
จังหวัดเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาแต่โบราณ มี "คำเมือง" เป็นภาษาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเริ่มวางตัวเป็นนครสร้างสรรค์ และได้รับการประกาศเป็นเมืองสร้างสรรค์ของโลกทางด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน[3] เมื่อปี พ.ศ. 2560 ปัจจุบันกำลังพิจารณาสมัครเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก[4] เชียงใหม่ยังถือเป็นศูนย์กลางด้านดาราศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[5] โดยเป็นที่ตั้งของหอดูดาวแห่งชาติและอุทยานดาราศาสตร์แห่งชาติ

เนื้อหา

ประวัติศาสตร์[แก้]


พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ คือ พญามังราย พญาร่วง (พ่อขุนรามคำแหง) และพญางำเมือง
เมืองเชียงใหม่ มีชื่อปรากฏในตำนานว่า "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่" (คำเมือง: Lanna-Nopphaburi Si Nakhon Phing Chiang Mai.png)[6]) สถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 1839 โดยพญามังราย และมีอายุครบ 720 ปี ในปี พ.ศ. 2559
ในอดีตเชียงใหม่มีฐานะเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรนครรัฐอิสระ ชื่อว่า อาณาจักรล้านนา ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย ประมาณ 261 ปี (ระหว่าง พ.ศ. 1839-2101) กระทั่งในปี พ.ศ. 2101 เชียงใหม่ได้เสียเมืองให้แก่พระเจ้าบุเรงนองแห่งพม่า และได้อยู่ภายใต้การปกครองของพม่ามานานกว่าสองร้อยปี จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี จึงได้มีการทำสงครามเพื่อขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงใหม่และเชียงแสนได้สำเร็จ โดยการนำของเจ้ากาวิละและพระยาจ่าบ้าน และเปลี่ยนชื่อเป็น เมืองรัตตนติงสาอภินวปุรี (คำเมือง: Lanna-Rattanatingsanawapuri.png)[7])
หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้ากาวิละขึ้นเป็นพระบรมราชาธิบดี ปกครองนครเชียงใหม่และเป็นประมุขแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร (ราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน) และต่อมา เจ้านายซึ่งเป็นเชื้อสายของพระเจ้ากาวิละ ก็ได้ปกครองเมืองเชียงใหม่และหัวเมืองต่างๆ สืบต่อมา
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองประเทศราช โดยมีการจัดตั้งการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า "มณฑลพายัพ" ต่อมาเชียงใหม่ได้มีการปรับปรุงการปกครองและยกฐานะขึ้นเป็น "จังหวัด" ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปัจจุบัน
...เมืองเชียงใหม่นี้เหมือนหนึ่งเปนเพชรซึ่งประดับมงกุฎของเมืองไทย ถ้ามงกุฎปราศจากเพชรประดับก็จะไม่ผ่องใสงดงามได้...[8]
จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
...เมืองเชียงใหม่ใหญ่โต เคยเปนราชธานีแห่งหนึ่งในพงศาวดารของไทย ทั้งเปนที่มีความผาสุกในระดูหนาว สมควรเปนที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินได้ตามระดูกาล...[9]
ประชาธิปก ป.ร.
...เชียงใหม่เป็นเมืองพิเศษ จะทำอะไรต้องพิเศษ อย่าทำอะไรง่ายๆ...
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. 16 มกราคม 2530
...เมืองเชียงใหม่ เปนเมืองเจริญมาก นับได้ว่าเป็นที่สองในกรุงสยาม การสินค้าก็บริบูรณ์มาก...[10]
กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม

ภูมิศาสตร์[แก้]

ที่ตั้ง[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่ (ตัวอำเภอเมือง) ตั้งอยู่ ณ ละติจูด 18 องศาเหนือ ลองติจูด 98 องศาตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 310 เมตร ส่วนกว้างจากทิศตะวันตกจรดทิศตะวันออกประมาณ 138 กิโลเมตร ส่วนยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ประมาณ 428 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานคร 696 กิโลเมตร[11]

อาณาเขตติดต่อ[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีชายแดนติดต่อกับ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอไชยปราการ รวมระยะทางทั้งสิ้น 227 กิโลเมตร พื้นที่เขตแดนส่วนใหญ่เป็นป่าเขา จึงไม่สามารถปักหลักเขตแดนได้ชัดเจน และเกิดปัญหาเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ

ภูมิประเทศ[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ 20,107.057 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 12,566,911 ไร่ มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับที่ 1 ของภาคเหนือ และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมา ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและป่าละเมาะ มีที่ราบอยู่ตอนกลางตามสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง มีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ ดอยอินทนนท์ สูงประมาณ 2,565 เมตร อยู่ในเขตอำเภอจอมทอง นอกจากนี้ยังมีดอยอื่นที่มีความสูงรองลงมาอีกหลายแห่ง เช่น ดอยผ้าห่มปก (อำเภอฝาง) สูง 2,285 เมตร ดอยหลวงเชียงดาว (อำเภอเชียงดาว) สูง 2,170 เมตร ดอยสุเทพ (อำเภอเมืองเชียงใหม่) สูง 1,601 เมตร สภาพพื้นที่แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ
  1. พื้นที่ภูเขา คิดเป็นพื้นที่ประมาณร้อยละ 80 ของจังหวัด ประกอบด้วยทิวเขาอินทนนท์ (หรือถนนธงชัยตะวันออก) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด พาดยาวจากทิศเหนือจรดใต้ ตามแนวรอยต่อกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน และทิวเขาขุนตาน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัด พาดผ่านในทิศเหนือ-ใต้ [11] พื้นที่ภูเขาส่วนใหญ่เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก ส่วนบางพื้นที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชาวเขาชาติพันธุ์ต่าง ๆ
  2. พื้นที่ราบลุ่มน้ำและที่ราบเชิงเขา กระจายอยู่ทั่วไประหว่างหุบเขาทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ ได้แก่ ที่ราบลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำฝาง ลุ่มน้ำแม่งัด เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสมต่อการเกษตร

ภูมิอากาศ[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 25.4 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20.1 องศาเซลเซียส มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100-1,200 มิลลิเมตร สภาพภูมิอากาศจังหวัดเชียงใหม่อยู่ภายใต้อิทธิพลมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งภูมิอากาศออกได้เป็น 3 ฤดู[11]
[ซ่อน]ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2524–2553)
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 29.8
(85.6)
32.6
(90.7)
35.2
(95.4)
36.5
(97.7)
34.2
(93.6)
32.7
(90.9)
31.8
(89.2)
31.5
(88.7)
31.7
(89.1)
31.4
(88.5)
30.1
(86.2)
28.6
(83.5)
32.18
(89.92)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 10.9
(51.6)
16.2
(61.2)
19.5
(67.1)
22.9
(73.2)
23.8
(74.8)
24.0
(75.2)
23.9
(75)
23.7
(74.7)
23.2
(73.8)
22.2
(72)
19.2
(66.6)
15.7
(60.3)
20.43
(68.78)
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) 4.2
(0.165)
8.9
(0.35)
17.8
(0.701)
57.3
(2.256)
162.0
(6.378)
124.5
(4.902)
140.2
(5.52)
216.9
(8.539)
211.4
(8.323)
117.6
(4.63)
53.9
(2.122)
15.9
(0.626)
1,130.6
(44.512)
ความชื้นร้อยละ 68 58 52 57 71 77 79 81 81 79 75 73 70.9
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย (≥ 1 mm) 1 2 2 6 14 14 16 18 20 14 5 1 113
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด 272.8 251.4 269.7 258.0 217.0 177.0 170.5 161.2 156.0 198.4 234.0 263.5 2,629.5
แหล่งที่มา1: กรมอุตุนิยมวิทยา (ทั่วไป 2524-2553), (ปม.ฝนเฉลี่ย 2524-2533)
แหล่งที่มา 2: หอสังเกตการณ์ฮ่องกง (ชม.แดดออก)

ทรัพยากรป่าไม้[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีป่าไม้หลายประเภท ประกอบด้วย ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าเต็งรังผสมป่าสนเขา และป่าแดง เป็นต้น พื้นที่ป่าไม้ ประกอบด้วย ป่าธรรมชาติ สวนป่า และป่าฟื้นฟูตามธรรมชาติ โดยมีพื้นที่ป่าไม้อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ 12,222,395 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 69.93 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด[11] แบ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 25 แห่ง อุทยานแห่งชาติ 14 แห่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 4 แห่ง วนอุทยานแห่งชาติ 2 แห่ง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 1 แห่ง และจังหวัดเชียงใหม่ยังเป็นจังหวัดที่ถือได้ว่ามีพื้นที่เขตเมืองใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติมากที่สุดในประเทศอีกด้วย อุทยานแห่งชาติในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่
นอกจากนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้เกิดขึ้นเป็นประจำ สาเหตุสำคัญเช่น การลักลอบตัดไม้ การบุกรุกเพื่อทำการเกษร และไฟป่า

ทรัพยากรน้ำ[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีแม่น้ำสำคัญ คือ แม่น้ำปิง และมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด และเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง และยังแบ่งตามพื้นที่ลุ่มน้ำดังนี้
  • ลุ่มน้ำปิงตอนบน เป็นลุ่มน้ำที่สำคัญที่สุดในภาคเหนือตอนบน มีพื้นที่ 25,355.9 ตร.กม. สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนมีความลาดชันสูง วางตัวแนวเหนือ-ใต้ พื้นที่ส่วนใหญ่เสี่ยงต่อแผ่นดินถล่มและการชะล้างพังทลายของดินสูง ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบสะวันนา คือ มีฤดูฝนสลับกับฤดูแล้งอย่างชัดเจน[ต้องการอ้างอิง] และยังมีลุ่มน้ำย่อยอีก 14 ลุ่มน้ำย่อย แม่น้ำที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำปิง แม่แตง แม่กวง แม่งัด แม่แจ่ม แม่ขาน และแม่ตื่น
  • ลุ่มน้ำกก มีน้ำแม่กกเป็นแม่น้ำสายหลัก ไหลผ่านเมืองกก เข้าเขตประเทศไทยที่ช่องน้ำกก อำเภอแม่อาย แล้วไหลเข้าสู่จังหวัดเชียงราย ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ครอบคลุมพื้นที่ 2,773 ตร.กม.[ต้องการอ้างอิง]
  • ลุ่มน้ำฝาง มีแม่น้ำฝางเป็นแม่น้ำสายหลัก ซึ่งมีต้นกำเนิดจากดอยขุนห้วยฝางและดอยหัวโท ทางตอนใต้ของอำเภอไชยปราการ ไหลลงสู่น้ำแม่กก มีความยาวลำน้ำประมาณ 70 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำ 1,948.5 ตร.กม. ในอำเภอไชยปราการ ฝาง และแม่อาย

ธรณีวิทยา[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่ประกอบด้วยหินตะกอนและหินแปร อายุแก่สุดคือหินยุคพรีแคมเบรียน ไปจนถึงอายุอ่อนคือชั้นตะกอนร่วนในยุคควอเทอร์นารี หินอัคนีประกอบด้วยหินอัคนีแทรกดันในยุคคาร์บอนิเฟอรัส และยุคไทรแอสซิก ส่วนหินอัคนีพุเป็นหินภูเขาไฟยุคดีโวเนียน-คาร์บอนิเฟอรัส และหินภูเขาไฟ ยุคเพอร์เมียน-ไทรแอสซิก
จังหวัดเชียงใหม่มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรณี โดยมีการผลิตแร่ที่สำคัญ 8 ชนิด ได้แก่ ถ่านหิน เฟลด์สปาร์ (แร่ฟันม้า) แมงกานีส ชีไลต์ ดีบุก ดินขาว ฟลูออไรด์ และแร่หินอุตสาหกรรม และจังหวัดเชียงใหม่ยังมีแหล่งทรัพยากรธรณีที่สำคัญ เช่น แหล่งปิโตรเลียม อำเภอฝาง สภาพทางธรณีวิทยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ บ่อน้ำพุร้อน อำเภอสันกำแพงและอำเภอฝาง โป่งเดือด อำเภอแม่แตง บ่อน้ำแร่ธรรมชาติ อำเภอแม่ริม เป็นต้น
จังหวัดเชียงใหม่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งมีรอยเลื่อนมีพลัง 2 แห่งที่พาดผ่านจังหวัด ได้แก่ "รอยเลื่อนแม่จัน" ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัด พาดผ่านอำเภอฝางและอำเภอแม่อายในทิศตะวันออก-ตะวันตก และ "รอยเลื่อนแม่ทา" พาดผ่านพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดในทิศเหนือ-ใต้ ผ่านอำเภอพร้าว ดอยสะเก็ด แม่ออน เชียงดาว แม่แตง แม่ริม สันทราย เมืองเชียงใหม่ สารภี หางดง สันป่าตอง และแม่วาง นอกจากนี้พื้นที่ส่วนอื่นของจังหวัดก็มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในบริเวณอื่นเช่นกัน โดยแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางในเขตจังหวัดเชียงใหม่ครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 ขนาด 5.1 มีจุดเหนือศูนย์กลางในอำเภอแม่ริม ทำให้เกิดความเสียหายเล็กน้อยในบริเวณอำเภอแม่ริมและอำเภอใกล้เคียง
ขยายแผ่นดินไหวในอดีตที่มีศูนย์กลางในจังหวัดเชียงใหม่ (ขนาดมากกว่า 4.0 Mw)
วันที่เวลาท้องถิ่นขนาด (Mw)จุดเหนือศูนย์กลางพิกัด
26 พฤษภาคม 252106:224.8อ.พร้าว19°12′00″N 99°36′00″E / 19.20000°N 99.60000°E / 19.20000; 99.60000
10 กุมภาพันธ์ 252309:174.2อ.พร้าว19°21′00″N 99°13′48″E / 19.35000°N 99.23000°E / 19.35000; 99.23000
20 มิถุนายน 252520:204.3อ.ดอยสะเก็ด18°55′12″N 99°10′48″E / 18.92000°N 99.18000°E / 18.92000; 99.18000
19 กุมภาพันธ์ 253101:384.2อ.ดอยสะเก็ด18°52′12″N 99°10′12″E / 18.87000°N 99.17000°E / 18.87000; 99.17000
5 พฤศจิกายน 253806:574.0อ.ฝาง19°42′00″N 98°36′00″E / 19.70000°N 98.60000°E / 19.70000; 98.60000
21 ธันวาคม 253823:305.2อ.พร้าว19°42′00″N 99°00′00″E / 19.70000°N 99.00000°E / 19.70000; 99.00000
13 กรกฎาคม 254109:204.1อ.ฝาง19°42′00″N 99°06′00″E / 19.70000°N 99.10000°E / 19.70000; 99.10000
18 ธันวาคม 254520:474.3อ.เชียงดาว19°24′00″N 99°06′00″E / 19.40000°N 99.10000°E / 19.40000; 99.10000
4 ธันวาคม 254816:344.1อ.แม่วาง18°42′00″N 98°30′00″E / 18.70000°N 98.50000°E / 18.70000; 98.50000
13 ธันวาคม 254900:025.1อ.แม่ริม18°55′48″N 98°58′12″E / 18.93000°N 98.97000°E / 18.93000; 98.97000
19 มิถุนายน 255012:064.5อ.แม่ริม18°54′00″N 99°00′00″E / 18.90000°N 99.00000°E / 18.90000; 99.00000
25 กุมภาพันธ์ 2551[12]17:254.4อ.ฝาง19°51′36″N 99°07′12″E / 19.86000°N 99.12000°E / 19.86000; 99.12000
11 ตุลาคม 2556[13]01:194.1ต.ทุ่งหลวง อ.พร้าว19°19′12″N 99°14′24″E / 19.32000°N 99.24000°E / 19.32000; 99.24000
11 มกราคม 2560[14]04:084.0อ.แม่วาง18°37′12″N 98°34′48″E / 18.62000°N 98.58000°E / 18.62000; 98.58000
15 มกราคม 2560[15]15:354.2อ.จอมทอง18°33′36″N 98°31′12″E / 18.56000°N 98.52000°E / 18.56000; 98.52000
แหล่งอ้างอิง: [16] สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา

การเมืองการปกครอง[แก้]

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]


ดอกทองกวาว ดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่

หน่วยการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 25 อำเภอ 204 ตำบล 2,066 หมู่บ้าน ซึ่งอำเภอทั้ง 25 อำเภอมีดังนี้
อำเภอเมืองเชียงใหม่อำเภอจอมทองอำเภอแม่แจ่มอำเภอเชียงดาวอำเภอดอยสะเก็ดอำเภอแม่แตงอำเภอแม่ริมอำเภอสะเมิงอำเภอฝางอำเภอแม่อายอำเภอพร้าวอำเภอสันป่าตองอำเภอสันกำแพงอำเภอสันทรายอำเภอหางดงอำเภอฮอดอำเภอดอยเต่าอำเภออมก๋อยอำเภอสารภีอำเภอเวียงแหงอำเภอไชยปราการอำเภอแม่วางอำเภอแม่ออนอำเภอดอยหล่ออำเภอกัลยาณิวัฒนาจังหวัดลำพูนจังหวัดตากจังหวัดลำปางจังหวัดแม่ฮ่องสอนจังหวัดเชียงรายจังหวัดสุโขทัยจังหวัดแพร่ประเทศพม่าประเทศพม่า
แผนที่อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่
เลขชื่ออำเภอชื่อโรมันจำนวนตำบลประชากร
(พ.ศ. 2560)[2]
พื้นที่
(ตร.กม.)
ความหนาแน่น
(คน/ตร.กม.)
1เมืองเชียงใหม่Mueang Chiang Mai 16 234,649 152.36 1,540.11
2จอมทองChom Thong 6 66,792 712.3 93.77
3แม่แจ่มMae Chaem 7 59,728 2,686.57 22.23
4เชียงดาวChiang Dao 7 92,588 1,882.08 49.19
5ดอยสะเก็ดDoi Saket 14 72,571 671.28 108.11
6แม่แตงMae Taeng 13 75,790 1,362.78 55.61
7แม่ริมMae Rim 11 93,185 443.63 210.05
8สะเมิงSamoeng 5 23,690 898.02 26.38
9ฝางFang 8 118,324 888.16 133.22
10แม่อายMae Ai 7 78,300 736.7 106.28
11พร้าวPhrao 11 49,120 1,148.19 42.78
12สันป่าตองSan Pa Tong 11 75,416 178.19 423.24
13สันกำแพงSan Kamphaeng 10 85,563 197.83 432.5
14สันทรายSan Sai 12 133,063 285.02 466.86
15หางดงHang Dong 11 87,890 277.14 317.14
16ฮอดHot 6 43,849 1,430.38 30.66
17ดอยเต่าDoi Tao 6 27,406 803.92 34.09
18อมก๋อยOmkoi 6 62,833 2,093.83 30.01
19สารภีSaraphi 12 83,504 97.46 856.83
20เวียงแหงWiang Haeng 3 45,149 672.17 67.17
21ไชยปราการChai Prakan 4 46,013 510.85 90.07
22แม่วางMae Wang 5 31,834 601.22 52.95
23แม่ออนMae On 6 21,266 442.26 48.08
24ดอยหล่อDoi Lo 4 26,052 260.13 100.15
25กัลยาณิวัฒนาGalyani Vadhana 3 12,265 674.58 18.18
รวม 2041,746,84020,107.0686.88
ประวัติการจัดตั้งอำเภอ
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2476 ถึงปัจจุบัน จังหวัดเชียงใหม่มีการตั้งอำเภอขึ้นใหม่ ดังนี้
  • อำเภอหางดง โดยแยกจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2490[17]
  • อำเภอแม่แจ่ม โดยแยกจากอำเภอจอมทอง ในวันที่ 5 มิถุนายน 2499[18]
  • อำเภออมก๋อย โดยแยกจากอำเภอฮอด ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2501[19]
  • อำเภอสะเมิง โดยแยกจากอำเภอแม่ริม ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2501[20]
  • อำเภอแม่อาย โดยแยกจากอำเภอฝาง ในวันที่ 28 มิถุนายน 2516[21]
  • อำเภอดอยเต่า โดยแยกจากอำเภอฮอด ในวันที่ 25 มีนาคม 2522[22]
  • อำเภอเวียงแหง โดยแยกจากอำเภอเชียงดาว ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2536[23]
  • อำเภอไชยปราการ โดยแยกจากอำเภอฝาง ในวันที่ 3 มิถุนายน 2537[24]
  • อำเภอแม่วาง โดยแยกจากอำเภอสันป่าตอง ในวันที่8 สิงหาคม 2538[25]
  • อำเภอดอยหล่อ โดยแยกจากอำเภอจอมทอง ในวันที่ 24 สิงหาคม 2550[26]
  • อำเภอแม่ออน โดยแยกจากอำเภอสันกำแพง ในวันที่ 24 สิงหาคม 2550[27]
  • อำเภอกัลยาณิวัฒนา โดยแยกจากอำเภอแม่แจ่ม ในวันที่ 25 ธันวาคม 2552[28]

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีจำนวน 210 แห่ง ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง (องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่), เทศบาลนคร 1 แห่ง (เทศบาลนครเชียงใหม่), เทศบาลเมือง 4 แห่ง, เทศบาลตำบล 116 แห่ง, และองค์การบริหารส่วนตำบล 89 แห่ง รายชื่อเทศบาลทั้งหมดมีดังนี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่[แก้]

รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ลำดับ รายนาม วาระ
1 พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์ (หม่อมราชวงศ์ประยูร อิศรศักดิ์) พ.ศ. 2444
2 พระยายอดเมืองขวาง ไม่ทราบข้อมูล
3 พระยามหินทรบดี ไม่ทราบข้อมูล
4 พระยาวรวิไชยวุฒิกร (เลื่อม สนธิรัตน) ไม่ทราบข้อมูล
5 พระยาเพ็ชร์พิสัยศรีสวัสดิ์ (แมน วสันตสิงห์) พ.ศ. 2461 - 2471
6 พระยาอนุบาลพายัพกิจ (ปุ่น อาสนจินดา) พ.ศ. 2471 - 2481
7 พระยาอมรฤทธิธำรง (พร้อม ณ ถลาง) พ.ศ. 2481 - 2484
8 พระชาติตระการ (หม่อมราชวงศ์จิตร์ คเนจร) พ.ศ. 2484 - 2485
9 ขุนประสงค์สุขการี (สมบุญ ลาภเจริญ) พ.ศ. 2485 - 2488
10 ทวี แรงขำ 18 มิถุนายน 2488 - 30 กันยายน 2489
11 ขุนไตรกิตยานุกูล (อัมพร ไตรกิตยานุกูล) 22 ตุลาคม 2489 - 30 มกราคม 2494
12 อุดม บุญยประสพ 30 มกราคม 2494 - 30 มิถุนายน 2495
13 ประเสริฐ กาญจนดุล 1 กรกฎาคม 2495 - 12 มิถุนายน 2501
14 พ.ต.อ.เนื่อง รายะนาค 16 มิถุนายน 2501 - 28 สิงหาคม 2502
15 สุทัศน์ สิริสวย 31 สิงหาคม 2502 - 30 มิถุนายน 2503
16 พ.ต.อ.นิรันดร ชัยนาม 1 กรกฎาคม 2503 - 30 กันยายน 2514
17 วิสิษฐ์ ไชยพร 1 ตุลาคม 2514 - 15 กรกฎาคม 2515
18 อาษา เมฆสวรรค์ 1 ตุลาคม 2515 - 1 ตุลาคม 2518
19 ชลอ ธรรมศิริ 1 ตุลาคม 2518 - 11 พฤษภาคม 2520
20 ประเทือง สินธิพงษ์ 22 พฤษภาคม 2520 - 22 พฤษภาคม 2523
21 ชัยยา พูนศิริวงศ์ 1 ตุลาคม 2523 - 30 กันยายน 2530
22 ไพรัตน์ เดชะรินทร์ 1 ตุลาคม 2530 - 26 พฤษภาคม 2534
23 ชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ 16 มิถุนายน 2534 - 18 ตุลาคม 2536
24 วีระชัย แนวบุญเนียร 18 ตุลาคม 2536 - 30 กันยายน 2539
25 พลากร สุวรรณรัฐ 1 ตุลาคม 2539 - 11 มกราคม 2541
26 ประวิทย์ สีห์โสภณ 12 มกราคม 2541 - 22 เมษายน 2544
27 โกสินทร์ เกษทอง 23 เมษายน 2544 - 9 ตุลาคม 2545
28 พิสิษฐ เกตุผาสุข 28 ตุลาคม 2545 - 4 มิถุนายน 2546
29 สุวัฒน์ ตันติพัฒน์ 5 มิถุนายน 2546 - 12 พฤศจิกายน 2549
30 วิชัย ศรีขวัญ 13 พฤศจิกายน 2549 - 30 กันยายน 2550
31 วิบูลย์ สงวนพงศ์ 1 ตุลาคม 2550 - 13 มีนาคม 2552
32 อมรพันธุ์ นิมานันท์ 16 มีนาคม 2552 -30 กันยายน 2553
33 หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล 1 ตุลาคม 2553 - 30 กันยายน 2555
34 ธานินทร์ สุภาแสน 8 ตุลาคม 2555 - 30 กันยายน 2556
35 วิเชียร พุฒิวิญญู 1 ตุลาคม 2556 - 1 มิถุนายน 2557
36 สุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ 2 มิถุนายน 2557 - 30 กันยายน 2558
37 ปวิณ ชำนิประศาสน์ 1 ตุลาคม 2558 - 29 มิถุนายน 2561[29]
38 ศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ 29 มิถุนายน 2561 - ปัจจุบัน

การเลือกตั้ง[แก้]

ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด จังหวัดเชียงใหม่แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 10 เขต มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 10 คน ส่วนวุฒิสภา มีการเลือกตั้งสมาชิกได้ 1 คน

การต่างประเทศ[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ตั้งของสถานกงสุล ดังนี้ สถานกงสุลใหญ่ ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และสถานกงสุลใหญ่เมียนม่า ส่วนสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ได้แก่ สถานกงสุลกิตติมศักดิ์เยอรมนี โปรตุเกส ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ออสเตรีย แคนาดา อิตาลี เปรู บังกลาเทศ สวีเดน กรีซ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สวิตเซอร์แลนด์

เมืองพี่น้อง[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีความสัมพันธ์ในฐานะเมืองพี่น้องกับเมืองดังต่อไปนี้[11]

ประชากรศาสตร์[แก้]

ศาสนา[แก้]

ประชากรในจังหวัดเชียงใหม่ นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 91.8 ศาสนาคริสต์ร้อยละ 5.6 ศาสนาอิสลามร้อยละ 1.17 ศาสนาฮินดูและสิกข์ร้อยละ 0.02 และอื่น ๆ ร้อยละ 1.41[11]

สถิติประชากร[แก้]

      หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
      หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
อันดับ
(ปีล่าสุด)
อำเภอ พ.ศ. 2560[30] พ.ศ. 2559[31] พ.ศ. 2558[32] พ.ศ. 2557[33] พ.ศ. 2556[34] พ.ศ. 2555[35]
1เมืองเชียงใหม่ 234,649 234,837 235,589 234,244 235,154 235,059
2จอมทอง 66,792 66,811 66,738 66,531 66,353 66,214
3แม่แจ่ม 59,728 59,515 59,145 58,698 58,321 57,872
4เชียงดาว 92,588 91,829 91,457 83,399 82,534 82,037
5ดอยสะเก็ด 72,571 72,064 71,316 70,215 69,397 68,380
6แม่แตง 75,790 75,699 75,893 75,044 74,968 74,875
7แม่ริม 93,185 91,558 90,706 88,835 87,605 86,465
8สะเมิง 23,690 23,642 23,580 23,386 23,289 23,373
9ฝาง 118,324 118,075 117,589 112,847 112,439 112,035
10แม่อาย 78,300 77,778 77,533 73,537 73,243 72,914
11พร้าว 49,120 49,258 49,463 49,324 49,567 49,762
12สันป่าตอง 75,416 75,290 75,329 75,390 75,490 75,332
13สันกำแพง 85,563 84,327 82,906 81,144 80,080 79,072
14สันทราย 133,063 131,414 130,251 127,062 123,817 121,262
15หางดง 87,890 86,435 85,175 83,310 81,635 80,223
16ฮอด 43,849 43,803 43,809 43,809 43,890 43,759
17ดอยเต่า 27,406 27,393 27,458 27,406 27,326 27,278
18อมก๋อย 62,833 62,317 61,899 61,076 60,429 59,794
19สารภี 83,504 82,247 81,156 79,996 78,835 78,066
20เวียงแหง 45,149 44,563 44,305 27,527 27,283 27,064
21ไชยปราการ 46,013 45,962 45,954 44,760 44,670 44,642
22แม่วาง 31,834 31,625 31,695 31,472 31,325 31,344
23แม่ออน 21,266 21,296 21,287 21,281 21,292 21,260
24ดอยหล่อ 26,052 25,931 26,041 26,083 26,196 26,260
25กัลยาณิวัฒนา 12,265 12,093 11,968 11,908 11,750 11,300
รวม1,746,8401,735,7621,728,2421,678,2841,666,8881,655,642

เศรษฐกิจ[แก้]

ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) พ.ศ. 2555 มีมูลค่า 163,828 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคเกษตร (รวมถึงการล่าสัตว์และการป่าไม้) 28,014 ล้านบาท (17.1%) และนอกภาคเกษตร 135,813 ล้านบาท (82.9%) สาขาการผลิตนอกภาคเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ การให้เช่าและบริการทางธุรกิจ (14.4%) การขายส่งขายปลีก (12.1%) การศึกษา (11%) ตัวกลางทางการเงิน (11%) การบริหารราชการแผ่นดินและการป้องกันประเทศ (7.9%) การก่อสร้าง (7.2%) อุตสาหกรรม (6.9%) และสาขาอื่น ๆ (14.9%) จังหวัดเชียงใหม่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ 11.7[11]
มีรายได้ประชากรต่อหัวเฉลี่ย 89,542 บาท/คน/ปี อยู่ที่อันดับ 2 ของภาคเหนือรองจากจังหวัดลำพูน[11] สำหรับรายได้ประชากรในเขตชนบท เฉลี่ยนั้น อยู่ที่ 59,092.45 บาท/คน/ปี อำเภอที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำที่สุด คือ อำเภออมก๋อย 29,198.01 บาท/คน/ปี และอำเภอที่มีรายได้สูงสุด คือ อำเภอฝาง 110,592.77 บาท/คน/ปี[36]
ใน พ.ศ. 2556 จังหวัดเชียงใหม่มีกำลังแรงงาน 976,115 คน (60.45% ของประชากร) มีอัตราว่างงานเฉลี่ย 1.24% ซึ่งมีจำนวนราว 12,000 คน จังหวัดเชียงใหม่มีแรงงานต่างด้าว 67,113 คน โดยเกือบทั้งหมดเป็นชาวพม่า (66,995 คน) แรงงานต่างด้าวประกอบอาชีพในภาคการก่อสร้างมากที่สุด 27,993 คน รองลงมาอยู่ในภาคเกษตรและปศุสัตว์ 16,342 คน[11]

ภาคเกษตรกรรม[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่การเกษตร 1,835,425 ไร่ (14.61% ของพื้นที่จังหวัด) ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 716,454 ไร่ และพืชสวน 459,254 ไร่ พื้นที่การเกษตรนี้อยู่ในเขตชลประทาน 642,979 ไร่ (35% ของพื้นที่การเกษตร) มีครัวเรือนการเกษตร 134,426 ครัวเรือน
พืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ข้าว ลำไย ลิ้นจี่ กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และส้มเขียวหวาน[11]

ภาคอุตสาหกรรม[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีโรงงาน 1,395 แห่ง เงินลงทุน 32,180 ล้านบาท แรงงาน 43,306 คน อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร เกษตร ขนส่ง อโลหะ และเครื่องดื่ม ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พ.ศ. 2554 มี 34 โครงการ ประเทศที่มีการลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สิงคโปร์ มาเลเซีย เดนมาร์ก ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[36]

การท่องเที่ยว[แก้]

ในการสำรวจ World Best Award-Top 10 Cities จากผู้อ่าน Travel and Leisure นิตยสารท่องเที่ยวของสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2553 ผลปรากฏว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลก รองแต่เพียงกรุงเทพมหานครเท่านั้น ซึ่งใน พ.ศ. 2552 จังหวัดเชียงใหม่ถูกจัดเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 5 ของโลก โดยพิจารณาจากสถานที่ ทัศนียภาพ ความสวยงามและร่มรื่น ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี อาหารการกิน แหล่งช็อปปิ้ง ความเป็นมิตรของผู้คน ความคุ้มค่า ของเงิน เป็นต้น[37]
ใน พ.ศ. 2555 จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนนักท่องเที่ยวราว 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2554 ราว 9 แสนคน อยู่ในอันดับที่ 4 ของประเทศรองจากกรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดชลบุรี เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2,192,322 คน (33.4%) สร้างรายได้รวม 53,507 ล้านบาท[11]

วัฒนธรรมและประเพณี[แก้]


ประเพณีเข้าอินทขิล ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
เมืองเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน คนเชียงใหม่ได้สั่งสมวัฒนธรรมประเพณีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่มีความผูกพันกับพุทธศาสนาและความเชื่อดั้งเดิม ประเพณีที่สำคัญ ได้แก่
  • ปีใหม่เมือง (สงกรานต์) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนของทุกปี เป็นประเพณีที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของชาวเชียงใหม่ แบ่งเป็นวันที่ 13 เป็นวันสังขารล่อง มีขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ และพิธีสรงน้ำพระ วันที่ 14 เป็นวันเน่า ชาวบ้านจะเตียมข้าวของไปวัดและรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่วันต่อไป และวันที่ 15 เมษายน ประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และมีการเล่นสาดน้ำตลอดช่วงเทศกาล
  • ประเพณียี่เป็ง จัดขึ้นในช่วงวันลอยกระทงของทุกปี ราวเดือนพฤศจิกายน มีการตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ ด้วยโคมชนิดต่างๆ มีการปล่อยโคมลอย มีการลอยกระทง ประกวดกระทงและนางนพมาศ
  • ประเพณีเข้าอินทขิล จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ที่วัดเจดีย์หลวง เป็นการบูชาเสาหลักเมืองโดยการนำดอกไม้ธูปเทียนมาใส่ขันดอก
  • เทศกาลร่มบ่อสร้าง จัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกปี ที่ศูนย์หัตถกรรมทำร่มบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง มีการแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน มีการแสดงทางวัฒนธรรม ขบวนแห่ ประเพณีพื้นบ้าน
  • มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ จัดขึ้นในอาทิตย์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี บริเวณสวนสาธารณะบวกหาด มีขบวนรถบุปผาชาติ และนางงามบุปผาชาติ
  • งานไม้แกะสลักบ้านถวาย จัดขึ้นในเดือนมกราคม ที่หมู่บ้านถวาย อำเภอหางดง มีการจำหน่ายและสาธิตการแกะสลักไม้ และหัตถกรรมพื้นบ้าน
  • ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จัดขึ้นในเดือนเมษายน ในวันที่ 15 เป็นต้นไป ของทุกปี ที่บริเวณตัวเมืองจอมทอง มีขบวนรถจากชุมชน ห้างร้าน กลุ่มต่างๆ กว่า 40 ขบวน แห่ไปตามเมืองจอมทอง อำเภอจอมทอง จนถึง วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานานกว่า 200 ปี ตามตำนานเกิดขึ้นที่อำเภอเภอจอมทอง ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทยและแห่งเดียวในโลก ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ กลายเป็นต้นแบบของการแห่ไม้ค้ำสะหลีของชาวล้านนา จนได้รับความนิยมไปทั่วภาคเหนือ และเป็นประเพณีที่เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยมอย่างมาก

โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]

การศึกษา[แก้]


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่รับรองระบบการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษา มีจำนวนสถานศึกษาทั้งสิ้น 1,146 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการศึกษาขั้นพื้นฐาน 893 แห่ง ตามมาด้วยสถาบันการศึกษาเอกชน 140 แห่ง และมีสถาบันอุดมศึกษา 12 แห่ง มีครู/อาจารย์ 21,155 คน และนักเรียน นิสิต นักศึกษา 440,706 คน ซึ่งอัตราส่วนครู/อาจารย์ ต่อนักเรียน นิสิต นักศึกษาเป็น 1:21 นักเรียนในสังกัดส่วนใหญ่อยู่ในระดับประถมศึกษา 138,288 คน รองลงมาคือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 75,804 คน[36]
สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
นอกจากนี้ยังมีวิทยาเขตของสถาบันอุดมศึกษาตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัด ได้แก่

สาธารณสุข[แก้]

จังหวัดเชียงใหม่มีโรงพยาบาลแผนปัจจุบัน 48 แห่ง 6,045 เตียง[36] มีบุคลากรแพทย์ 1,065 คน (สัดส่วนต่อประชากรเป็น 1: 1,540) พยาบาล 4,812 คน (1: 341) และทันตแพทย์ 359 คน (1: 13,445)
อัตราการเกิด 10.98 ต่อ 1,000 คน อัตราการตาย 8.16 ต่อ 1,000 คน และอัตราการเพิ่มตามธรรมชาติ 2.52 ต่อ 1,000 คน[36]
โรงพยาบาลของรัฐที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลสวนปรุง

การขนส่ง[แก้]


รถสองแถวที่รู้จักกันในชื่อ รถแดง
จังหวัดเชียงใหม่มีระบบขนส่งที่หลากหลายทั้งทางบก ทางรถไฟ และทางอากาศ โดยเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางการบินที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศและภูมิภาค เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ มีระบบรางเข้าถึงและมีสถานีรถไฟกลาง 1 แห่งคือ สถานีรถไฟเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่มีสถานีรถโดยสารประจำทาง 3 แห่ง สำหรับการขนส่งผู้โดยสารไปยังอำเภอต่าง ๆ และจังหวัดใกล้เคียง
ทางด้านระบบขนส่งมวลชน มี รถแดง ตุ๊กตุ๊ก รถเมล์[38] แท็กซี่มิเตอร์ ให้บริการในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียง

สาธารณูปโภคอื่น ๆ[แก้]

  • ไฟฟ้า การไฟฟ้าของจังหวัดอยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขตเหนือ รับซื้อกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ณ แหล่งผลิตแม่เมาะ จังหวัดลำปาง มีสถานีควบคุมการจ่ายไฟฟ้า 5 สถานี จำนวนการไฟฟ้า 32 แห่ง ในปี 2553 จำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น 567,201 ราย ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในจังหวัด 2,264.45 ล้านหน่วย สามารถให้บริการไฟฟ้าได้ครอบคลุม 25 อำเภอ สำหรับหมู่บ้าน ที่ไม่สามารถขยายเขตระบบจำหน่ายได้เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่ เป็นหมู่บ้าน ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แหล่งต้นน้ำลำธาร ลุ่มน้ำ เขตป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติ เป็นต้น ซึ่งหลายแห่งมีการติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
  • ประปา การประปาในจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ การประปาเชียงใหม่ การประปาฮอด การประปาสันกำแพง การประปาฝาง การประปาแม่ริม การประปาแม่แตง มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 54.83 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณการใช้น้ำ 25.33 ล้านลูกบาศก์เมตร มีจำนวนผู้ใช้น้ำ 112,685 ราย โดยในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ มีผู้ใช้น้ำประปามากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 69.04 ของจำนวนผู้ใช้ประปาทั้งหมดของจังหวัด
  • โทรศัพท์ จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนเลขหมายโทรศัพท์ 305,434 เลขหมาย เป็นเลขหมายที่มีผู้เช่า 186,294 เลขหมาย มีชุมสายโทรศัพท์ 247 แห่ง
  • ไปรษณีย์ มีสำนักงานไปรษณีย์ จำนวน 37 แห่ง มีจำนวนผู้ใช้บริการ 2,467,286 ราย[36]

ความคิดเห็น